ขี่มอเตอร์ไซค์ เที่ยว น่าน ภูลังกา ห้วยหมี สะปัน Road Trip 1,700km 4 วัน 4 คืน By Gpx Tuscany 150
ทริปฤดูหนาว ที่ไม่หนาวเท่าที่คิด กับทริปน่านประจำปี 2023 และที่เที่ยวยอดฮิต
ทั้งภูลังกา (ผาช้างน้อย) และ ลานกางเต็นท์ห้วยหมี 1 สะปัน และ บ่อเกลือ
กับบรรยากาศกึ่งร้อนกึ่งหนาว จะหมอกก็ไม่ค่อยจะหมอก
พร้อมแล้วไปชมด้วยกันครับ
ผมออกบ้านในช่วงสายๆประมาณเที่ยงก็ผ่านอยุธยาไปจนถึงชัยนาทในช่วงบ่าย ก็ได้เวลาเติมคาเฟอีนแบบที่ร่างกายมันเรียกร้อง ผ่านช่วงนครสวรรค์ในเวลาบ่ายกว่า เป็นช่วงบ่ายในฤดูหนาวที่ไม่หนาวเอาเสียเลย อย่างที่ว่ากันเลยว่าหนาวนี้จะไม่ค่อยหนาว ก็เห็นจะจริง
ถึงตัวเมืองนครสวรรค์ ผมเลี้ยวขวาไปยังทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 ผ่านจังหวัดพิจิตร สู่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อแวะเป้าหมายแรกของทริปนี้ ซึ่งไม่ใช่ที่เที่ยว แต่เป็นทั้งที่กินและเป็นที่ผ่านมาเที่ยวหาเพื่อนสนิทไปในตัวที่ร้านบั้นจร้างเนื้องในตัวเมืองพิษณุโลก ที่เจ้าของร้านอินดี้สุดๆ เป็นที่รู้กันว่าเปิดร้านตามอารมณ์กันแบบสุดๆ เรียกได้ว่าถ้าไม่นัดไม่เช็คคิวกันก่อนนี่แทบจะอดกินเป็นที่แน่นอน แต่รสชาติก็ต้องบอกว่าพลาดไม่ได้อีกเช่นกัน เป็นอีกร้านที่แนะนำว่าต้องมา และ…ต้องถามก่อนนะว่าเปิดร้านมั้ย
ร้านบั้นจร้างเนื้องในตัวเมืองพิษณุโลก ที่เจ้าของร้านอินดี้สุดๆ
ออกจากพิษณุโลกก็เย็นมากแล้ว ตามแผน ผมกะว่าจะไปนอนสักแพร่ ซึ่งห่างไปอีกกว่าสองร้อยกิโลเมตร ซึ่งถ้าถามว่าลากไปแพร่ไหวไหม ก็ต้องตอบว่าสบายมากทั้งรถและคน แต่ในหัวมันแว้บอีกเมนูหนึ่งระหว่างทางขึ้นมา เลยเปลี่ยนแผนไปนอนอุตรดิตถ์ เพื่อจะไปกินผัดไทยหน้าฟรายเดย์…โชคดีที่วันนี้ร้านเปิด เลยได้กินรสชาติที่คิดถึงอย่างสมใจ เรียกว่าวันนี้ดับเบิ้ลลัคกี้เลยก็ว่าได้ แต่คนเรา ก็ใช่ว่าจะโชคดีเสมอไป เพราะหน้าฟรายเดย์ มีเส้นชัยของงานวิ่งที่กำลังมอบรางวัล ก็เดาได้ว่าโรงแรมในตัวเมืองน่าจะเต็มแน่นอน ผมออกมาหาโรงแรมที่นอกเมือง แวะถามหลายที่ ในที่สุดก็ได้ที่นี่ ที่เหลือเป็นห้องสุดท้าย
วันที่สองของการเดินทาง วันนี้ระยะทางถึงเป้าหมายไม่ได้ไกลมาก ผมเลือกที่จะนอนเต็มที่ แล้วตื่นมากินมื้อเช้าให้อิ่มท้อง ผมออกจากอุตรดิตถ์ในช่วงเกือบๆเที่ยง ในที่สุดก็ได้เจอทางโค้งที่โหยหาบนเขาพลึงสักที ผ่านลงมาจนเกือบถึงเด่นชัย บังเอิญเจอเพื่อนจอดอยู่ข้างทางเลยได้แวะทักทายกันเล็กน้อย ผมขี่ผ่านเลี่ยงเมืองจังหวัดแพร่ ไปเลี้ยวซ้ายที่แยกร้องเข็ม เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 103 ผ่านช่วงทางตรงที่เป็นเนินลาดขึ้นลงยาวๆแปลกตา แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1154 ผ่านตัวอำเภอสอง เลี้ยวขวาอีกทีเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1120 ข้ามเขาสะเอียบ ตัดเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลย 1091 ที่ปงสนุก ผ่านเชียงม่วนแล้วไปตัดเข้า 1092 ที่อำเภอปง
หลังจากเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1148 มาได้ ก็ได้เวลาเพลิดเพลินกับถนนและทางโค้งที่ขึ้นที่ว่าเป็นที่หมายของนักเดินทางเล่นโค้งด้วยมอเตอร์ไซค์เส้นหนึ่งของประเทศไทย ด้วยความเรียบและสมูทของพื้นถนนยางมะตอยชั้นดี องศาของโค้งที่รับกันสนุกพอดี ขี่เล่นโค้งเพลินๆได้สักพักเราก็มาถึงที่หมายของวันนี้ ที่ลานกางเต็นท์ภูซัน ภูลังกา ที่จริงๆแล้วตั้งอยู่ที่ผาช้างน้อย ความพิเศษของที่นี่คือเป็นลานกางเต็นที่เราสามารถเอารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์มาจอดชนวิวผาช้างน้อยข้างเต็นท์ได้เลย แถมยังเสียค่าบริการเพียง 150 บาทต่อคน ซึ่งเมื่อเทียบกับวิวหลักล้านแล้ว ก็ต้องถือว่าถูกมาก และเป็นครั้งที่สองที่ผมได้มาเยือนที่แห่งนี้
กางเต็นท์เสร็จก็ได้เวลาบินชมบรรยากาศรอบๆกันแล้วล่ะ
บินเสร็จแสงเกือบหมด ก็ได้เวลาหิวพอดี เต็นท์ข้างๆสั่งอาหารมา ผมถามพ่อครัวที่มาส่งข้าวว่ามีลาบเหนือมั้ย คำตอบคือการได้มานั่งกินลาบเหนือกับไข่เจียวเป็นมื้อเย็นของวัน ซึ่งเป็นรสชาติที่ลงตัวพอดีสำหรับผม แถมยังได้วิวหลักล้านให้ละเลียดไปกับของโปรดแบบนี้ คุ้มเกินคำว่าอร่อยไปไกล
หนึ่งในเรื่องดีๆของทริปนี้ คือผมได้เพื่อนบ้านที่น่ารักในลานกางเต็นท์ทั้งสองแห่งในทริปนี้ และวันนี้ผมก็กางอยู่ข้างๆทั้งน้องคู่ชายหญิงที่มาจากเชียงรายที่แบ่งปันของกินเล่นให้ผม และพี่ชายกับพี่สาวที่ขับรถตู้แบบรถบ้านมาเที่ยวพร้อมกับหมาน้อยสองตัวที่น่ารักและเป็นมิตร เมื่อรวมเข้ากับบรรยากาศแล้ว เป็นอีกวันที่ดีมากๆของผมในทริปนี้เลยทีเดียว
เก็บของลงจากผาช้างน้อยและแวะแอ็คถ่ายภาพสวยๆที่จุดชมวิวทางหลวง 1148 เสร็จ ก็ได้เวลาเสพทางโค้งของถนนเส้นนี้กันต่อ จากจุดนี้ไปยังอำเภอสองแคว จังหวัดน่าน ผมตั้งเป้าไว้ว่าจะไปแวะจิบกาแฟในตัวอำเภอปัว ที่ร้าน โรงบ่ม ปัว คาเฟ่ แอนด์ อีเทอรี่ เป็นอีกจุดเช็คอินถ่ายภาพเก๋ๆของสายเที่ยวคาเฟ่ ที่แม้ในวันธรรมดา ผู้คนยังควั่กไคว่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มุมถ่ายภาพของที่นี่เขาสวยเก๋ไม่เหมือนที่ไหนจริงๆ โดยเฉพาะอาคารโรงบ่ม ที่ถือเป็นแลนด์มาร์คที่ให้สถาปัตยกรรมที่แปลกตาตามประโยชน์ใช้สอย เป็นอีกที่ๆไม่ควรพลาดเมื่อผ่านมาทางปัวอีกเช่นกัน
จุดเช็คอินที่ผมว่า หากมีโอกาสไปก็ต้องห้ามพลาดครับ!
แล้วในที่สุด เราก็มาถึงลานกางเต็นท์ห้วยหมี 1 ทันก่อนพระอาทิตย์ตกจนได้ครับ รีบกางเต็นท์กันก่อนดีกว่า
คืนนี้ผมก็ได้เพื่อนบ้านดีๆ เป็นกลุ่มพี่ๆมอเตอร์ไซค์ที่มาจากแถวนครชัยศรี ก็ได้คุยกันยาวๆไม่เหงาดี แต่ข่าวดีก็คือที่นี่ก็มีสัญญานของทรูและใช้อินเตอร์เนตมือถือได้เร็วพอสมควร เป็นการได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมแบบ 360 องศา บอกเลยว่าที่นี่กลางคืนดาวสวยมาก เป็นอีกที่ๆอยากแนะนำสำหรับคนที่ชอบความเป็นธรรมชาติที่ยังพอมีความสะดวกแบบสัญญานมือถือเข้าถึง ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีร้านอาหาร แต่มีร้านขายของชำที่ต้องขี่ลงไปซื้อในหมู่บ้าน
เช้าวันนี้ ผมตื่นมาพร้อมกับสรรสำเนียงของธรรมชาจิของหมู่บ้านกลางพงไพร รายล้อมไปด้วยขุนเขาสูงใหญ่ที่เป็นต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงให้สรรพชีวิต ความรู้สึกสดชื่นของร่างกายที่ได้นอนหลับและสูดเอาอากาศสดชื่นจากลำนำที่แวดล้อมรอบตัว คล้ายได้ฮีลร่างฮีลใจจากพรของแม่พระธรณี ให้ร่างกายและจิตใจได้ฟื้นฟูกลับมาเตรียมสู้ชีวิตกับสังขารที่ยังเคลื่อนไหวต่อไปอีกครั้ง ลานกางเต็นท์ห้วยหมี 1 แห่งนี้ ก็ได้ขึ้นชื่ออยู่ในบัคเกตลิสต์ที่ผมต้องหาเวลากลับมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน
หลังจากเก็บของลงจากห้วยหมีผมแวะกินมื้อสายรวบเที่ยงที่ร้านอาหารตามสั่งริมห้วยสะปันที่เคยแวะมาในครั้งก่อน และขึ้นไปเฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของหมู่บ้านสะปันที่เปลี่ยนไปตามบริบทของความเจริญตามกาลเวลา
ลงจากสะปันผมก็หาที่พักผ่อนอยู่หลายชั่วโมง เพื่อที่จะค่อยๆกลับลงไปที่พักที่น่านอีกสักคืน เลือกทางผ่านที่คุ้นเคยเพื่อทักทายมิตรสหายเก่าอย่างโค้งพับผ้าช่วงที่ขึ้นจากอำเภอบ่อเกลือ
ต่อด้วยจุดเช็คอินยอดฮิตอย่างโค้งถนนหมายเลขสาม และเก็บภาพทั้งมุมโปรดที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้กันเยอะ แต่ก็เป็นมุมที่คนที่พอจะถ่ายภาพได้จะมองมุมกล้องออกว่าถ่ายจากจุดนี้ก็ได้ภาพเลขสามที่สวยงามเช่นกัน และมุมยอดฮิตที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวซึ่งต้องรอจังหวะที่ไม่มีคนติดในกล้อง ซึ่งก็นานกว่าจะได้ภาพสวยๆโล่งๆ
ปิดท้ายทริปนี้ ที่น่าเสียดายที่ผมไม่ได้มาในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เลยไม่ได้เดินเล่นถนนคนเดินแถววัดภูมินทร์ แต่ใกล้ๆกันก็มีตลาดนัดอาหารเล็กๆพร้อมดนตรีสดพอให้ได้เสพบรรยากาศดีๆ พร้อมเรียบเรียงความทรงจำของทริปนี้เก็บเอาไว้ และรอเวลาที่จะกลับมาเยือนเมืองน่านอีกครั้ง
ขอบคุณที่ติดตามรับชมจนจบกระทู้ครับ : By – แอดหมี OMEGA OHM