บิดคลายร้อนไปนอนเบตง ไป-กลับ  2,600 กิโลเมตร by Alpha Volantis

แชร์บน

บิดคลายร้อนไปนอนเบตง ไป-กลับ 2,600 กิโลเมตร by Alpha Volantis

หน้าร้อนนี้ ใครยังไม่รู้ว่าจะหนีร้อนไปที่ไหน 
เราจะมาแนะนำสถานที่ๆอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี 
ของกินอร่อย แถมยังมีทะเลหมอกให้ชมได้ตลอดทั้งปี 
และที่นี่คือ อำเภอ เบตง จังหวัด ยะลา ใต้สุดแดนสยาม

Day 1 : 9 มีนาคม 2567
วันแรกของการเดินทาง เราออกสายนิดหน่อย (ประมาณเก้าโมงครึ่ง) จากบางใหญ่ ไปหนองแขม ตัดเข้าเพชรสาคร ผ่านกระทุ่มแบน ไปตัดเข้าพระรามสองที่มหาชัยตามลำดับ ที่ใช้คำว่า “เรา” เพราะทริปนี้ผมไม่ได้มาคนเดียว มีเพื่อนคู่ใจมาด้วยก็คือ ตาบอล จากช่อง Easy go

จุดพักต่อไปสำหรับนักเดินทางสายใต้ ถ้าคุณกำลังหิว สำหรับมื้อเช้า ข้าวแกงแม่ล้วนเขาย้อย เป็นอีกตัวเลือกที่อร่อยและคุ้มค่า

อิ่มหนำแล้วก็ไปกันต่อ ตามสเตปของรถเล็กสำหรับวันแรก ดีที่สุดคือเราต้องไปถึงหาดใหญ่ในวันนี้ วันแรกจึงเป็นเรื่องของการทำเวลาและระยะทาง จากเวลาที่เราวิ่งด้วยกันประจำ เดาไว้ว่าน่าจะถึงหาดใหญ่สักเที่ยงคือ ในเงื่อนไขคือไม่มีแวะเที่ยว แค่แวะกิน แวะเติมน้ำมัน แวะพักเดินเล่นยืดเส้นยืดสายบ้าง ภาพส่วนมากที่ได้ก็จะประมาณนี้ คือเป็นภาพจากกล้อง SENA 50C (บลูทูธติดหมวกที่ถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอได้) บ้าง จาก Gopro 10 ที่ห้อยคอไว้บ้าง กดๆถ่ายไปตามจุดที่อยากจะได้ภาพแล้วค่อยมาแคปเอาจากโปรแกรม VLC อีกที ซึ่งความคมชัดก็ถือว่าแค่พอจะได้ภาพ จะเอาคมเอาเป๊ะนี่ก็ยากมาก  แวะจอดถ่ายกับป้ายบ้าง จากตรงนี้เข้าเขตประจวบคีรีขันธ์ ก็จอดทำใจกันได้เลยว่าขี่กับปวดตรูดแน่นอน

ประมาณเที่ยงที่แยกปรานบุรี ลากกันยาวๆ แวะกินมื้อบ่ายๆแถวๆหลังสวนแล้วก็ยาวไปๆ

มื้อดึกที่ชายสี่ ตรงข้ามโลตัสทุ่งสง ประมาณเที่ยงคืน เราก็ถึงหาดใหญ่ ช้าจากที่คิดไว้ไปนิดหน่อยเพราะเจอฝนมาดักก่อนเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ คืนนี้ที่พักส่วนใหญ่เต็ม หรือถ้ายังมีก็ขึ้นราคา เพราะไปตรงกับวันที่หาดใหญ่มีคอนเสิร์ตใหญ่พอดีเลย 

คืนนี้ได้ห้องที่มานอนตะในราคา 1,200 บาท ก็ถือว่าโอเครับได้ถ้ามาสองคน เน้นซุกหัวนอนแล้วตื่นสายๆ

Day 2 : 10 มีนาคม 2567
นอนดึกตื่นเที่ยงแบบไม่มีผิดแผน เพราะเอาจริงๆเราทั้งคู่นอนดึกต่อกันมาหลายคืน กับระยะทางที่เหลือจากหาดใหญ่ไปเบตง ปกติเราวิ่งกันครึ่งวันแบบสบายๆ แผนเลยกลายเป็นตื่นมาเก็บของแล้วเช็คเอาท์ให้ทันเที่ยง แล้วก็ค่อยออกมาหากินรวบสองมื้อทีเดียว แผนแรกตั้งใจว่าจะกินโชคดีแต๋เตี้ยม แต่ตื่นซะเที่ยงก็เลยหากินเอาแบบพอหาได้แถวๆนั้นเอา

ระหว่างทางจากหาดใหญ่ กับถนนเลียบทะเลเทพา ผ่านทีไรก็อดแวะไม่ได้ แดดดีแต่ลมตึงๆ สบายตัวมากมาย

ขี่ไปมาถึงไหนๆ จากที่เคยเจอ ขอยกให้ปั้มคาลเท็กซ์ริมทะเลเทพาเป็นปั้มน้ำมันวิวทะเลที่วิวดีที่สุดเท่าที่เคยเจอในประเทศไทยเลยครับ จอดเพลินๆตรงนี้เกือบชั่วโมง แล้วจะถึงเบตงกี่โมง….

มีเรื่องเล่านิดนึง เราขี่ออกมาจากหาดใหญ่กลางแดดเปรี้ยงๆ แวะริมหาดเทพากับลมโกรกๆกลางแดด ทำเอาหิวน้ำกันแบบคอแห้งกันเลย ตอนเติมน้ำมันก็ถามน้องพนักงานหน้าลานว่าเติมเท่าไรถึงได้น้ำดื่มแถม น้องๆยิ้มแล้วตอบว่าห้าร้อยค่ะ แน่นอนว่าเติมให้เต็มสองคันก็ยังไม่ถึงห้าร้อยแน่นอน ปรากฎว่าพอเติมเสร็จ น้องก็ยื่นน้ำดื่มมาให้เราสองขวดแล้วบอกว่าให้ฟรีค่ะ…นี่ล่ะนะน้ำใจไมตรี แน่นอนว่าเราสามารถพบเจอสิ่งเหล่านี้ในการเดินทาง ไม่ว่าจะในไทยหรือที่ไหน นี่เป็นอีกสเน่ห์ของการเดินทางจริงๆ

จากเทพาก็ลากยาวๆมาถึงยะลา ดิ่งเข้าเบตงกันต่อ จริงๆจะแวะถ่ายรูปตรงสะพานโต๊ะกูแช แต่ทั้งรถทั้งคนเต็มสะพานเลยต้องเอาไว้คราวหน้าครับ

มาถึงก็เช็คอินกันก่อน คืนเราพักที่ไทยโมเดิร์น ค่าเสียหายคืนละ 800 ได้ห้องแบบนี้ มีอ่างแช่น้ำ ชอบอย่างหลังนี่แหละ

และเมนูนี้ คือหนึ่งในเหตุผลที่ด้นดั้นมาแทบทุกปี กินไก่ที่ไหนก็ไม่สุดเท่าที่นี่จริงๆ

กินคาวไม่กินหวานคงเป็นคนพิกลนัก (เลยอ้วนแทน) จัดโรตีลาวาทะลักไปอีกหนึ่งกรุบ หลับฝันหวานน้ำตาลพรุ่งปรี๊ดล่ะคืนนี้

Day 3 : 11 มีนาคม 2567
ลืมบอกไปนิด ทริปนี้สำหรับคู่หู ตั้งใจมาทำคลิป “บิดแหลกแดกยับ” ใช่ครับ สิ่งกินคือธีมหลัก เช้ามา…ตั้งใจไปไท่ซีฮี้ …….. แต่อนิจจา….. . ร้านปิด เลยได้มาร้านนี้แทน แต่ก็ได้มาลองหลายเมนู ที่ติดใจสุดคือก๋วยเตี๋ยวขาวนี่แหละ กินได้หลายแบบ อร่อยทุกแบบ แต่ที่ชอบสุดคือกินเปล่าๆนี่แหละเด็ดสุดสำหรับผม รองลงมาก็คงเป็นจุ่มซุปกระดูกหมู ท้ายสุดคือเหยาะซีอิ้วขาว แนะนำเลยว่าต้องไปลองกันให้ได้นะ

อิ่มแล้วก็มาต่อร้านกาแฟในตรอก ที่ว่ากันว่าเป็นแหล่งชุมนุมของไบค์เกอร์เบตง

สร๊วบกาแฟเสร็จแล้วง่วงเฉย…กลับมางีบสักแปบ แล้วลุกมาเช็คเอาท์ ย้ายไปเช็คอินต่อที่ทรีเฮาส์ เบตง ห้องนี้ในราคา 690 บาทต่อวัน

ตกบ่าย เราก็ออกไปหาอะไรกินกันอีกหน่อย เริ่มจากเบาๆกันที่เฉาก๊วย กม.4 กันก่อนเลย

หวานแล้วต้องต่อคาว จัดไปอย่าให้ขาดปาก รอบนี้ได้ลองมาชิม “ปลานิลสายน้ำไหล” หนึ่งในโลคัลฟู้ดระดับตำนานเช่นกัน เพาะเลี้ยงในบ่อปิดที่จำลองการไหลของกระแสน้ำตามธรรมชาติ เนื้อแน่นๆ ตัวบึ้มๆ มื้อนี้สั่งมาแค่สองอย่างแต่จุกไปยันสองทุ่มครับ

อิ่มจนไปไหนไม่ไหว แล้วก็มานั่งตาลอยกันที่สวนไม้เมืองหนาว อากาศสบายๆดี

จากสวนไม้เมืองหนาว จริงๆเราแวะแช่เท้ากันที่บ่อน้ำพุร้อนเบตงกันอีกหน่อย (ไม่ได้ถ่ายมา) หลังจากนั้นก็มาอีกเป้าหมายของทริปนี้ คือลงไปที่ด่านพรมแดน เพื่อเช็คอินกับหลักแบ่งเขตแดน ใต้สุดแดนสยาม

Day 4 : 12 มีนาคม 2567
ท้ายสุดของกระทู้นี้ (ขากลับขอเล่าแยกอีกกระทู้ครับ) ไม่มีอะไรมากมาย ออกจากที่พักแต่เช้า ขี่ฝ่าความเย็นสบายออกจากเบตงไปประมาณ 30 กิโลเมตร เพื่อวิ่งขึ้นไปสกายวอล์คอัยเยอร์เวง เพื่อภาพทะเลหมอกที่ยืนยันถึงอากาศที่เย็นสบายตลอดปีและความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าฮาลาบาลาล

ขอปิดท้ายกันแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ