เบตง – กรุงเทพ ขากลับ แวะพักใจที่ บ้านกรูด (Alpha Volantis)

แชร์บน

เบตง - กรุงเทพ ขากลับ แวะพักใจที่ บ้านกรูด (Alpha Volantis)

ขากลับจากเบตงรอบนี้ ผมตั้งใจไว้ว่าจะเซฟร่างกายด้วยการไม่อัดยาวๆให้ทรมาณร่างกายมากนัก
จึงเลือกที่จะแวะพักระหว่างทางสักสองคืน คืนแรกแวะแค่แวะนอน ตื่นสายๆแล้วค่อยไปต่อ
แต่อีกคืน ผมเลือกแวะที่ๆอยากจะแวะมานาน คราวนี้มีโอกาสจึงขอลองสักที
กับ บ้านกรูด ชายหาดที่ลงตัวสำหรับผมในอะไรหลายๆอย่าง
ทั้งที่พักที่เรียบง่ายไม่แพง รวมไปถึงชายหาดที่สงบ
เป็นอีกที่ๆเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
หากมีโอกาสจะกลับมาพักอีกแน่นอน
หลงรักบ้านกรูดเข้าแล้วล่ะ
พร้อมแล้วตามมาเลยจ้า

กลับจากมาจากสกายวอล์ค ลงมาถึงสะพานโต๊ะกูแช มีด่านของตำรวจตระเวณชายแดน ขี่เข้าไปอย่างสบายใจ คราวนี้เจ้าพนักงานขอความร่วมมือเก็บตัวอย่าง DNA ด้วยการเก็บเนื้อเยี่อจากกระพุงแก้ม แน่นอนว่าผมก็ให้ความร่วมมือประสาสุจริตชนคนเดินทาง

จากสะพาน ขี่เลยมาถึงธารโต รอบนี้ผมได้แวะที่ถ้ำกระแซ เป็นถ้ำที่มีโถงขนาดใหญ่และมีลำธารลอด ที่สำคัญคือมอเตอร์ไซค์สามารถขี่เข้าไปถ่ายรูปได้ เป็นอีกที่ๆตั้งใจไว้ว่าจะแวะเที่ยวสักครั้ง ทริปนี้ได้มาสมใจ ทุกๆอย่างโดยรวมถือว่าสวยงาม ติดที่ขาดการดูแลจากท้องถิ่นทำให้เริ่มเสื่อมโทรมและมีขยะเกลื่อนอยู่ทั่วไปในหลายๆจุด แต่รวมๆแล้วประทับใจครับ ทางเข้าหาไม่ยาก ตาม google map มาได้เลย เป็นอีกที่เช็คอินของสายท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซค์ที่อยากแนะนำ

จากนั้นก็ลากกันยาวๆ แวะพักกันตามปกติ ผ่านเบตง หาดใหญ่ ทุ่งสง ตกเย็น ถึงแยกเข้าสุราษฎร์ธานี ตาบอลแยกกลับพัทยาไปก่อน ส่วนผมแวะนอนที่สุราษฏร์ หนึ่งคืน

ช่วงสายที่สุราษฯ แวะหาเพื่อนที่ร้าน จากนั้นก็แวะมอบสติกเกอร์ให้กับมิตรรักแฟนเพจ เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาหลายที คราวนี้ได้เจอกันสักทีแล้วนะ

ออกจากตัวเมืองสุราษฏร์ฯ ผมตั้งใจวนอ้อมเมืองมาข้ามแม่น้ำตาปี หลักๆเพื่อจะมากินข้าวแกงที่ร้านนี้ จากร้านที่เคยแวะโดยบังเอิญ เป็นร้านที่ผมต้องหาโอกาสแวะทุกครั้งที่ผ่านมาทางนี้ รสชาติบ้านๆ เหมือนไปบ้านเพื่อนแล้วแม่เพื่อนทำให้ทาน รสชาติแบบนี้แหละที่ผมหลงไหล

อิ่มแล้วก็ไหลไปยาวๆ ขี่ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็แวะบ้าง จากสุราษฯ ผ่านไชยา หลังสวน

ถึงบางสะพานน้อย ให้กลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายตามภาพ  ให้ google map นำ เหมือนทางนี้จะอ้อมและเข้าทางแบบโลคัลหน่อย ไม่เป็นไร วันนี้ไม่รีบอยู่แล้ว ขี่เลาะมาเรื่อยๆจนมาออกถนนที่เลียบทะเล ขี่แล้วเพลินกายสบายใจมากมาย

ถึงที่หมายของวันนี้ที่ป้ายนี้แหละ แวะเช็คอินกันสักนิดหนึ่ง ฟ้าก็เริ่มมืด ได้เวลาไปสุ่มหาที่พักกันแล้ว

เป็นอีกครั้งที่สกิล Lucky Traveller ทำงาน ขี่มาสุดหาดเจอที่นี่ เรือนทะเลรีสอร์ท ที่พักสไตล์บังกะโลแบบดั้งเดิม อารมณ์เหมือนกลับไปเที่ยวทะเลในยุคเวลคัมทูไทยแลนด์ กับราคาหลักร้อย (คืนละ 800 บาท) ต่อหนึ่งหลังบรรยากาศแบบสวนมะพร้าวเล็กๆริมทะเลที่ระหว่างที่พักกับทะเลไม่มีถนนใดๆมาคั่นขวาง ทั้งรีสอร์ทมีคนไทยแค่สองหลัง นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติล้วนๆ อารมณ์แบบมาอยู่ลองสเตย์ เพราะถ้าพักหลายคืนต่อกันก็มีลดให้อีก (หลังที่ผมอยู่ถ้าสี่คืนขึ้นไปเหลือคืนละ 600) โอ้วววววแม่เจ้า ยังมีอะไรแบบนี้เหลืออยู่ในที่แบบนี้ด้วยเหรอ

ได้ที่พักสมใจ ความหิวก็เรียงคิวต่อมาทันที ด้วยความขี้เกียจออก แต่เห็นที่นี่มีร้านเล็กๆของตัวเอง…ไหนลองสั่งอะไรมาลองดู ราดหน้าทะเล จะเป็นยังไงนะ โอ้ย ของดีมาก ดีกว่าที่คิดไปไกล…เอ๊ะ หรือว่าเราจะหิวเลยอร่อยไปหมด ไหนๆ ขอลองของโปรดอย่าง กระเพราหอยแมลงภู่+ไข่ดาวไม่สุก มาลองสักหน่อย ผลคือ……เริ่ดมากกกกก ทั้งราคาและรสชาติ โอ้ยยยย ไม่ไปไหนแล้วจ้า

เช้าวันสุดท้ายของทริป ตื่นเช้ามืดไปตั้งไทม์แลปส์ พระอาทิตย์โดนเมฆบังยาวๆ น่าเสียดายไปนิด ไม่เป็นไร รอบหน้าค่อยมาแก้มือละกัน

กลับมากลิ้งๆสักพัก ตื่นมาเดินชิลด์แถวที่พัก บรรยากาศแบบนี้…กาหัวไว้เลยว่ามาซ้ำแน่ๆ คราวหน้าจะมาหลายๆคืนด้วย แฮร่!!

ใดๆคือในราคานี้และบรรยากาศนี้ ตอนเช้ายังมีกาแฟ ขนมปังปิ้ง ปาท่องโก๋ให้ด้วย

เที่ยงก็เช็คเอาท์ ก่อนออกยังคาใจ เมื่อวานเย็นไม่ใช่หิวใช่ไหมถึงกินแล้วอร่อย ไหนขอซ้ำอีกที เพิ่มเติมคือปลาอินทรีย์ทอด…เอาเป็นว่า จะกลับมากินอีกจ้าาาาาา ยอมแล้วววววว

ก่อนกลับก็ไม่วายแวะหามุมถ่ายรูปมาฝากกัน บอกเลยว่าตกหลุมรักเข้าแล้ว ไว้มีโอกาสจะกลับมาอีกแน่นอน (จัดมีตติ้งเลยดีมั้ย)

ขอปิดทริป กรุงเทพ – หาดใหญ่ – เบตง – สุราษฯ – บ้านกรูด ไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีและขอบคุณครับ