สำรวจเส้นทาง ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยว ดอยช้าง ดอยล้าน เล่นกับแกะที่ Ahka Farmville GPX Tuscany
หนึ่งแหล่งท่องเที่ยวใหม่ทัชใจสายเช็คอินร้านกาแฟ+โลเคชั่นสวยๆ
กับคาเฟ่บนยอดดอยที่ถือว่าปังเป็นอันดับต้นๆในเวลานี้
พาไปเที่ยว อาข่าฟาร์มวิลล์ Ahka Farmville
และแนะนำที่พักราคาประหยัดบนดอยช้าง
สำรวจเส้นทาง เชียงใหม่ – ดอยช้าง
พร้อมแล้วก็ซ้อนท้ายมาเลยจ้า
ทริปนี้ ผมเริ่มการเดินทางที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะบอกว่าเป็นการมาขึ้นรถไฟครั้งที่เป็นที่แรกก็ว่าได้ (แต่เคยมาลงตอนตีสี่แล้วรอบนึงเมื่อปีที่แล้วตอนกลับจากดอนเดด ผมยก Legend 250 กลับจากอุบลมาลงที่นี่) ซึ่งตอนนั้นลงรถก็เดินไปตามทางอย่างเดียว ในสถานียังไม่มีอะไรเลย รอบนี้มาใช้บริการ ก็มีฟู้ดคอร์ทหน้าตาสะอาด ราคาไม่แพงมาก นั่งในห้องแอร์สบายๆ เรียกได้ว่าฝากท้องได้เลย
ผมเลือกขบวนที่ 13 CNR ที่ออกจากนี่ประมาณ 18:20 ดังนั้น พอใกล้ๆหกโมงเย็น ผมก็ต้องไปรอที่จุดที่เจ้าหน้าที่จะเรียกให้ขึ้นรถไปพร้อมๆกันแล้ว จุดนี้ผมว่าโอเคดีเรื่องความปลอดภัย เพราะเรียกขึ้นรถตอน 18:00 แล้วรถออกในอีก 20 นาทีจากนั้น และถ้าไม่มีตั๋วก็ผ่านบันไดเลื่อนขึ้นไปไม่ได้ หายห่วงเรื่องมิจฉาชีพไปได้เลย
รอบนี้จองช้าไปหน่อย เหลือที่สุดท้าย เตียงบนริมสุดของคันนี้ติดฝั่งห้องน้ำก็ต้องเอาแหละ แต่จริงๆก็ไม่ได้กลิ่นเล็ดรอดออกมาเลยนะ
มาขึ้นรถไฟรอบนี้ รู้สึกเหมือนเป็นนักท่องเที่ยวไทยที่มาเที่ยวในมณฑลไท้กั๋ว คะเนด้วยสายตา ร้อยละเจ็ดสิบของผู้โดยสารคือชาวจีน บรรยากาศก็ออกลงล้งเล้งๆหน่อยๆ แต่ก็ยังถือว่าพอจะมีมารยาทที่พอไปวัดไปวาในไทยได้
ตรวจตั๋วเสร็จ กางเตียงเสร็จ เลยหนีไปสงบจิตสงบใจที่ตู้สเบียงสักหน่อย มารอบนี้ไม่ใช่อาหารกล่องแช่เย็นแล้วนะ รสชาติโอเค ปริมาณได้อิ่ม ราคาก็ตามสภาพ พอไหวๆ
ช่วงหลังๆต้องชมว่ารถไฟไทยทำเวลาได้ดี ตรงตามเวลาเป๊ะๆ (ถ้าไม่มีเหตุขัดข้อง) ถึงลำพูนก็จกพุงสามสีหนึ่งทีแล้วไปเอารถที่ฝากไว้ที่บ้านพี่แม็คได้เลย
ช่วงสายๆ ผมแวะไปทำธุระของครอบครัวที่ในเมือง ใกล้เที่ยงก็ขอแวะร้านประจำสักหน่อยนะ รสชาติยังโอเค บางคนบอกเปลี่ยนไปหน่อย ผมว่าบางทีลิ้นเราเองนี่แหละที่เปลี่ยนตามอายุไปเหมือนกัน
ขอตัวไปทำธุระแว้บนึง เย็นนี้กลับมาต่อฮะ
นานๆมาที เบิ้ลไปสองจนเรอแล้วก็ได้เวลาออกจากไชเหมี่ยง ออกจากเย็นตาโฟสวนดอก เลี้ยวขวาเข้านิมมาน วิ่งมาเรื่อยๆก็จะถึงแยกรินคำ จุดเริ่มต้นถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ (อ้อมเมือง) เดี๋ยวนี้คงเรียกแยกเมญ่ากันหมดแล้วแหละ ลอดอุโมงค์แยกข่วงสิงห์ ข้ามสะพานป่าตัน ชิดซ้ายแต่ไม่เลี้ยวซ้ายที่แยกแม่โจ้ เลยไปเลี้ยวซ้ายที่แยกศาลเด็กแล้วตรงไปทางดอยสะเก็ดขึ้นดอยนางแก้ว…นี่คือทางไปเชียงรายสไตล์คนเจียงใหม่เจ้า
สาดโค้งขึ้นดอยนางแก้วมาสักพัก เพลินจนคอแห้ง ก่อนถึงดอยนางแก้วจะมีร้านกาแฟร้านประจำของผมอยู่ซ้ายมือ น้ำผึ้งมะนาวอย่างเด็ดฮะบอกเลย นั่งเล่นตรงนี้เกือบสองชั่วโมงเลย เสียงน้ำไหลในลำธาร อากาศเย็นสบายบนภูเขาสูง ถ้ามีเปลก็ยาวอะฮะ
จะว่าไป ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 118 เป็นถนนอีกเส้นที่สายเล่นโค้งชอบกันมาก เพราะช่วงระหว่างดอยสะเก็ดไปจนถึงแม่ขะจาน อุดมไปด้วยโค้งไฮสปีดสุดเพลิน แต่ต้องระวังบางโค้งมันดูดแปลกๆ รู้ตัวอีกทีเกือบบานก็มี เอาเป็นว่าสนุกกันพอประมาณนะฮะ
ลงจากดอยนางแก้ว ก็จะเข้าที่ราบผ่านแม่ขะจาน+เวียงป่าเป้า ซึ่งจุดนี้ถือเป็นว่าเขตเชียงรายแล้ว (จริงๆถ้าเห็นศาลแม่นางแก้วก็ถือว่าเขตเชียงรายแล้วล่ะ)
แวะเยอะจัด กว่าจะถึง อ. แม่สรวย ก็ปาไปห้าโมงเย็น เลี้ยวซ้ายที่สามแยกนี้ก็จะเข้าสู่ทางหลวงชนบท หมายเลข 3037 จากตรงนี้ขึ้นไปดอยช้างก็ประมาณยี่สิบกิโลเมตรเห็นจะได้
จากสามแยกก็จะผ่านหมู่บ้าน พอขึ้นมาได้อีกหน่อยก็เป็นทางลาดขึ้นยาวๆ แต่ก็ไม่ได้ชันมาก รถทุกประเภทมาได้สบาย ขึ้นมาประมาณสักห้ากิโลเมตรก็จะถึงจุดชมวิวเขื่อนแม่สรวย ก็แวะสักหน่อยก่อน จุดนี้ทั้งชาวบ้านแม่สรวยด้านล่างก็จะขึ้นมาชมวิวยามเย็น หรือชาวบ้านบนเขา เวลาลงมาบางก็จะมาแวะจอดพักเล่นตรงนี้เช่นกัน เป็นอีกจุดชมวิวที่ผมชอบในทริปนี้
เลยจุดชมวิวมานิดนึง เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบท 5047 ไปจ้า จากตรงนี้ก็ขึ้นอีกยาวๆ แต่ทางดีลาดยางกริปตลอด
ถ้ามาถูกทาง เราก็จะผ่าน อาข่าฟาร์มวิลล์ Ahka Farmville ด้านขวามือ ขึ้นไปอีกๆ พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับมาเก็บภาพตรงนี้อีกที
เลยมาได้อีกโลหน่อยๆ ก็จะถึงยอดดอยในส่วนที่เป็นที่พักหลากหลายมากมาย คือถ้าเทียบกับที่หาข้อมูลมา ถือว่ามีสร้างใหม่เพิ่มอีกหลายแห่ง จากอัตราการเติบโต ถ้าไม่จัดการให้ดี คาดว่าจะเป็นชุมชนแออัด สลัมที่พักบนดอยแบบภูทับเบิกในอีกไม่เกินห้าปี ว่าแล้วเราก็ไปถามห้องว่างที่ๆเล็งไว้ตั้งแต่วางแผนทริปนี้ เพราะดูๆแล้วที่นี่น่าจะราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับวิวที่ได้ (ตามข้อมูลที่นี่เป็นที่พักที่แรกของโซนดอยช้างแถวๆนี้) เข้าไปถามที่สิบแสนวิว โอเค ว่างอีกห้องพอดี แล้วเป็นวันธรรมดาก็เลยต่อราคาได้อีกหน่อย จาก 1200 เหลือ 1000 พร้อมข้าวต้มเป็นอาหารเช้า ราคานี้โอเค จัดเลยฮะ
บ้านขาว…นายเลือกเรา (เพราะเหลืออยู่หลังเดียว…) จอดใต้ถุนบ้านได้เลยจ้า ในบ้านก็จะประมาณคล้ายกระต็อบยกสูงแล้วแบ่งส่วนต่างๆออกมาแยกฟังค์ชั่นกัน มีศาลาเล็กๆไว้ชมวิวจิบชา ห้องน้ำแยกออกจากห้องนอน มีชานบ้านส่วนกลางไว้เชื่อมแต่ละฟังค์ชั่นเข้าด้วยกัน (แต่ตรงชานเป็นเอาท์ดอร์นะ) ห้องนอนเล็กๆหลังคาเตี้ยๆ มีปลั้กแบบเหลือๆ มีพัดลมให้ ที่นี่กลางคืนไม่ต้องเปิดแอร์ แค่พัดลมก็เย็นสบายแล้ว รวมๆแล้วได้อารมณ์โฮมสเตย์ เพราะที่นี่จดทะเบียนเป็นโฮมสเตย์จ้า มีบ้านให้เลือกสามหลัง กับอีกหนึ่งห้อง
เข้าที่พักได้ก็งีบไปนิดหนึ่ง ตื่นมาโซเซจะหาอะไรกิน ก็ปรากฎว่าวันธรรมดานี่ร้านตามสั่งแถวๆนี้ปิดไวมาก เลยต้องพึ่งครัวของที่สิบแสนวิวนี่แหละ ก็ได้มาพอประทังตามภาพ (หิว) รสชาติถือว่าอร่อยพอประมาณ ไม่ว้าว แต่เบิ้ลได้ (อ้าวววว) แต่ที่เติมรสชาติคือประมาณสองทุ่มนี่เมฆล้อมรอบตัวละ นั่งๆกินไปสักพัก เริ่มมีละอองน้ำเล็กๆ สักพัก….กลายเป็นพายุฝนจ้า หนีเข้าห้องปิดประตูหน้าต่าง ปรากฎว่าฝนกับลมถล่มทั้งคืน…เดชะบุญที่ไม่ได้หาที่กางเต็นท์(แบกมาด้วย) ถ้ากางเต็นท์นี่งามไส้ฮะบอกเลย
ตื่นเช้ามาอีกวันแบบลุ้นนิดๆ เพราะแม้จะมีฝน แต่เมื่อคืนลมก็แรงเช่นกัน ถ้าเช้านี้ยังมีลม โอกาสจะได้หมอกก็ลดลงไป…แต่งตัวขี่ขึ้นไปทางดอยล้าน หาจุดเหมาะๆเก็บวิวมาฝาก…ให้ภาพมันบรรยายเนอะ
ยัง…ยังไม่พอ ขี่ย้อนมาตรง อาข่าฟาร์มวิลล์ เช้าจัดยังไม่เปิด (เปิด 07:00) แต่หมอกกำลังได้ จัดสักหน่อย
แบตหมด…กลับไปชาร์จแบตโดรน + ทานข้าวต้มมื้อเช้า อากาศดีมากๆ หลงรักอากาศแบบนี้เลยฮะ
แบตเต็มทั้งคนทั้งโดรน วนกลับไปอาข่าฟาร์มวิลล์อีกรอบ ค่าบัตรเข้าชม 100 บาท เอาไปแลกเครื่องดิ่มด้านในได้หลายเมนู น่าเสียดายที่แสงวันนี้ค่อนข้างเน่า และหมอกก็หายเกลี้ยง ภาพที่ได้ก็จะตุ่นๆหน่อย โอ้ย อยากได้แสงดีๆจัง แต่นี่ก็ต้องถือว่าเป็นคาเฟ่สุดเก๋บนยอดดอยนี่มีมุมถ่ายภาพสวยๆเยอะ และโดยเฉพาะน้องแกะฝูงน้อย (ประมาณยี่สิบตัวเห็นจะได้) แต่ก็มีสุนัขเลี้ยงแกะที่ถูกฝึกมาอย่างดีเป็นอีกสีสัน โดยรวมแล้ว…อยากกลับมาเฝ้าแสงดีๆอีกสักรอบสองรอบเลยล่ะ
ภาพที่ได้เช้านี้ ถือว่าไม่กำไร แต่ก็ไม่ขาดทุน เรียกได้ว่ายังพอได้ภาพ (ที่แคปจากวีดีโอเป็นส่วนใหญ่) กลับมาจิบกาแฟ ชาร์จแบต ฝนก็ตกวนไปวนมา…
ในระหว่างนั้น พี่เจ้าของที่พักคงสงสัยว่าเราเป็นช่างภาพ ก็เลยขอให้ช่วยถ่ายรูปที่พักให้หน่อย…ก็ได้นะ ว่างอยู่พอดี จัดให้ฟรีตามมีตามเกิด เลยได้ภาพมาเป็นข้อมูลที่พักไว้ให้เพื่อนๆด้วยฮะ
เริ่มกันที่หลังแรก ผมเรียกว่าบ้านเอเฟรมละกัน หลังนี้เรียกได้ว่าแพงที่สุดของที่สิบแสนวิว ก็ประมาณ 1500 ต่อคืนมั้ง…หลังนี้ ถ้าคนไม่ได้ชอบที่พักแบบแฟชั่นจ๋าๆ ต้องมีอ่างอาบน้ำกับวิวเอาท์ดอร์ไว้ทำทรง ผมว่าหลังนี้คุ้มมากกกกกก บนหลังคาก็ได้วิวแบบ 360 องศาเลย (คืนต่อมาผมเลยตัดสินใจนอนหลังนี้ ได้ส่วนลดนิดหน่อย โอเคเลยฮะ)
ฝนหยุดแล้ว ก็เก็บของออกไปหาคาเฟ่ + ตั้งใจว่าจะไปหาที่พักที่ดอยช้าง (ก่อนจะวนกลับมานอนที่สิบแสนวิวอีกคืน) คาเฟ่แรก The Cloud ก็สมชื่อฮะ ได้ทั้งเมฆ ได้ทั้งหมอก แถมติดฝนอยู่ที่นี่อีกพักใหญ่เลย สำหรับสาพถ่ายรูปเช็คอิน บอกเลยว่าระเบียงตามภาพคือเด็ดมาก
ฝนหยุดแล้วก็ขี่เลยเข้าไปอีกหลายกิโล เพื่อพบว่าดอยช้างจริงๆคือเป็นแหล่งชุมชนใหญ่ที่อยู่มีทั้งโครงการวิจัยที่สูง ทั้งหมู่บ้านขนาดใหญ่ของทั้งอาข่า ลีซู และม้ง (มากน้อยเรียงตามลำดับ) แต่ที่ขึ้นชื่อคือกาแฟดอยช้างที่เราพบเห็นสาขาได้ทั่วไปนั่นเอง แต่ในพื้นที่ชุมชนนั้น ลองขี่วนๆดูแล้วที่พักส่วนใหญ่จะเก่าและดูจะอึดอัด เลยตัดสินใจวนกลับไปนอนสิบแสนวิวซะงั้น
จริงๆจากดอยช้าง สามารถเลยไปเชียงรายได้โดยลงไปทางห้วยส้าน…แต่ติดไว้รอบหน้าหนาวละกันนะ
ก่อนกลับ…แวะคาเฟ่อีกสักที่ๆ Miyo ตรงนี้จะเป็นฝั่งที่ชมวิวฝั่งพระอาทิตย์ตก ร้านนี้ก็นั่งแล้วโอเคในหลายๆองค์ประกอบเลยครับ
กลับมาที่พัก ผมทานมื้อเย็นแล้วกลับไปบนห้องแล้วก็เผลอหลับไปยาวๆ ตื่นมาอีกทีตอนเช้าก็ขี้เกียจออกไปไหน ก็เก็บวิวจากบนดาดฟ้าบ้านเอเฟรมมาฝาก หลังจากนั้นก็เช็คเอาท์ประมาณสิบเอ็ดโมงแล้วก็ยิงยาวกลับบ้านเลยจ้า
ทริปนี้ก็จะประมาณนี้ ไว้จะกลับมาเก็บรอบฤดูหนาว เอาเต็นท์มาหาที่กางสักสองสามคืน มาเฝ้าแสงสวยๆที่อาข่าฟาร์มวิลล์ดูสิว่าจะมีแต้มบุญได้แสงสวยๆมั้ย ทริปนี้ขอตัวลาไปก่อน ขอบคุณที่ติดตามรับชมครับ BY : Omega Ohm