Review Nexx X.wed 3 หมวกกันน็อคอเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบอัดแน่น

แชร์บน

Review Nexx X.wed 3 หมวกกันน็อคอเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบอัดแน่น

หลังเก็บข้อมูลจากการใช้งานมาแบบครบๆกับมอเตอร์ไซค์หลากหลายประเภท
นับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ผ่านกุมภาพันธ์ มายันปลายเดือนมีนาคม
กว่าสองเดือนกับการเดินทางด้วยหมวกกันน็อคใบนี้
กับระยะทางใช้งานหลายพันกิโลเมตร
มาครับ ได้เวลาเล่าแล้ว…

นับตั้งแต่ได้มา ก็ได้นำเจ้า  Nexx X.wed 3 ไปใช้กับงานที่เรียกได้ว่าหลากหลาย เหลือแค่กับรถสปอร์ตเท่านั้นที่ไม่ได้ทดสอบ แต่ก็เชื่อว่าน้อยมากๆที่คนที่สนใจหมวกกันน็อคใบนี้จะซื้อไปใช้งานกับรถมอเตอร์ไซค์แบบสปอร์ต ดังนั้น เท่าที่เก็บข้อมูลมา ก็เชื่อว่าน่าจะเพียงพอต่อการตัดสินใจแล้วล่ะ

ก่อนอื่นเลย เบื้องต้น เจ้า  Nexx X.wed 3 ใบนี้ ถือเป็น Gen3 ของ X ซีรียส์ ซึ่งเจ้า XD.1 และ X.wed2 ถือเป็นซีรียส์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Nexx Helmet ซึ่งเป็นหมวกกันน็อคสัญชาติโปรตุเกสได้ดีมากๆใบนึง จนถึงขนาดได้ OEM ให้กับแบรนด์แอดเวนเจอร์ระดับท็อปอย่างทัวร์ราเทคกันในรุ่น

ผ่านมาหลายปี ในที่สุด จากการเก็บข้อมูลตัวโปรโตไทป์กับนักทดสอบทั่วโลกเป็นเวลากว่าสองปี ก็ได้คลอดออกมาเป็น Nexx X.wed 3 ในที่สุด ซึ่งในไทย ตัวแทนจำหน่ายก็คือร้านหมีตาดำ หรือ แพนด้าไรเดอร์ ที่หลายคนรู้จักกันมาเป็นเวลานานนั่นเอง ตัวหมวกจริงๆเปิดตัวในไทยไปตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 แต่กว่าของจะเข้ามาพร้อมจำหน่ายในไทยก็เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมานี่เอง เรียกได้ว่ารอกันหลายเดือน แต่ก็ถือว่าไทยเป็นประเทศแรกๆเลยที่ได้หมวกใบนี้เข้ามาจำหน่าย ก็ต้องยกความดีความงามให้กับพี่สยามและทีมงานที่ไฟท์เอาของดีๆเข้ามาให้พวกเราได้ใช้กันเรียกได้ว่าเร็วไม่น้อยหน้าใครกันเลยทีเดียว

หมายเหตุ Nexx X.wed 3 ผลิตทั้งใบ 100% ในประเทศโปรตุเกส

ภาพนี้จากงานเปิดตัว ที่เห็นหัวเกรียนๆนั่นคือตัวผู้เขียนเอง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในนักทดสอบ หนึ่งในประมาณสิบคน ที่ได้รับการสนับสนุนหมวกใบนี้มาใช้ในการเดินทางและทำงานทดสอบรถต่างๆ แน่นอนว่าถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ไปนั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกับนักทดสอบและตัวแทนจำหน่ายต่างๆ

และตอนนี้ก็ต้องบอกว่า…ใครสนใจและรออยู่ ก็รีบเลยนะ ขาประจำหมีตาดำเขารู้กันแหละว่า ช้าไซส์หมด รอล็อตต่อไปเลยนะจ๊ะ

เอาล่ะ เข้าเรื่องหมวกใบนี้กันสักที หลักๆเลยก็คือเจ้า Nexx X.wed 3 จะแบ่งเป็นสองรุ่นหลักๆ (แต่หลายราคาตามสีสรร) แบ่งแบบเข้าใจง่ายๆคือรุ่นที่วัสดุเปลือกหมวกเป็น ZERO PRO CARBON 3K กับ X-MATRIX2 Multi-Composite Fiber และเจ้า Nexx X.wed 3  เป็นหมวกที่ขึ้นโมลด์ใหม่ออกแบบใหม่ 100% เรียกได้ว่าไม่มีอะไรใช้ร่วมกับสองรุ่นก่อนหน้านี้ได้เลย และแน่นอนว่ามันมีการอัพเดทเทคโนโลยีความปลอดภัยต่างๆให้มากขึ้นกว่าเดิม

รุ่นที่ผู้เขียนได้รับการสนับสนุนมาใช้งาน จะเป็นตัวท็อป  Nexx X.wed 3  KEYO GREEN / SILVER MATT ที่เปลือกหมวกจะทำมาจาก ZERO PRO CARBON 3K ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Nexx Helmet

โม้มาขนาดนี้ เอาสเปคไปดูเลยว่ามันอัดแน่นเทคโนโลยีความปลอดภัยมาให้ขนาดไหน อ่านสเปคกันก่อนแล้วค่อยมาไล่กันทีละจุด

สเปคของ Nexx X.wed 3 ZERO PRO CARBON 3K

มาดูเรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัยกัน เรียกได้ว่าตอนที่นั่งฟังพี่สยามเหลาให้ฟัง แอบกดแอปดูเงินในบัญชีเลยว่ามีเท่าไร อยากถามเลยว่าพี่จะขายเท่าไร ผมซื้อตอนนี้เลยได้ไหม ไม่ต้องสปอนเซอร์ก็ได้ อยากได้แล้วๆๆๆ แต่ก็ไม่กล้าโพล่งออกไปกลางงานหรอก ฮ่าๆ โอเค รอก็รอจ้า  แต่จะให้เหลาทั้งหมด…ยาวแน่ๆ ขอหยิบไอ่ที่เด่นๆมาโม้ก็แล้วกัน อิ อิ อิ  อย่างแรกเลยคือ พูดแบบไทยๆคือ ระบบดูดซับแรงกระแทก  Anti-Vibretion ESP System ที่เป็นโฟมพิเศษที่อยู่ชั้นในรองจากเปลือกนอกลงมา จากภาพจะเห็นได้ว่าตรงส่วนบนของศีรษะ จะออกแบบเป็นลักษณะเหมือนขนมรวงผึ้ง ซึ่งโดดเด่นทั้งการระบายอากาศ และเจ้ารวงผึ้งนี้ก็สามารถที่จะกระจายแรงกระแทกได้ดีกว่าโฟมแบบตันๆทั่วไปอีกด้วย (สังเกตได้ว่า…เราจะเห็นการ์ดระดับเลเวลสูงของชุดขี่มอเตอร์ไซค์หลายยี่ห้อก็ออกแบบมาให้เป็นลักษณะรวงผึ้งเช่นเดียวกัน)

จากการใช้งานจริงๆ บอกตรงๆว่ายังไม่ได้ทดสอบเรื่องการดูดซับแรงกระแทก (และขอไม่ทดสอบด้วยจ้า) แต่ในเรื่องระบายอากาศนั้น ยอมรับเลยว่าเป็นหมวกที่ใส่แล้วระบายอากาศส่วนบนของศีรษะได้ดีที่สุดในจำนวนหมวกกันน็อคยี่สิบกว่าใบที่เคยใช้งานมา ทั้งๆที่ปกติผมเป็นคนที่เหงื่อออกที่ศีรษะค่อนข้างเยอะ(ถึงไว้สกินเฮดไง) แต่สองเดือนผ่านไปนวมยังไม่เหม็นเลยจริงๆ อันนี้ยอมเลย มันดีม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ประเด็นต่อมา จากคุณสมบัติในการระบายอากาศขั้นสุดของ ESP System  ที่กล่าวไปใน ความคิดเห็นที่ 6 นั้น เมื่อทำงานร่วมกับช่องรับอากาศ เข้า [ Air – inventation ] ที่มากถึง 7 ช่อง (เปิด-ปิดได้ทุกช่อง)

และช่องระบายอากาศออก อีก 4 ช่อง เมื่อรวมพลังเข้ากับการเซาะร่องระบายอากาศของโฟม ESP System อย่างที่เห็น

ด้านในส่วนบนของคาง เราจะเห็นชิ้นยาง Fog Guard ที่มีการออกแบบให้มีช่องระบายอากาศให้ไหลเวียนมาจากช่องอากาศเข้าตรงหน้าปากได้ดีแม้เวลาที่ใส่แผ่นปิดใต้คาง

แต่ๆ ด้วยหลักการของหมวกสไตล์ Adventure Touring ที่บางครั้งอาจต้องใช้งานแบบ Adventure ที่ผู้สวมใส่จะต้องมีการออกแบบบังคับรถมากกว่าปกติ และต้องใช้การหายใจเข้า-ออกที่มากขึ้น จึงต้องออกแบบช่วงปากและคางของเปลือกหมวกให้มีโฟลว์ของอากาศที่มากกว่าหมวกแบบอื่นๆ และเมื่อรวมเข้ากับช่องอากาศเข้าทั้ง 7 ช่องแล้ว มันจึงมีอากาศไหลเวียนเข้าที่ดีมาก จากการลองขี่รถหลายๆแบบ บอกเลยว่าถ้าไม่ใส่แผ่นปิดกันลมใต้คางนี่ลมจะย้อนเข้าตาทั้งสองข้างมากเกินไปหน่อย ซึ่งอาจทำให้ลูกตาแห้งเกินไปได้และอาจเป็นต้อลมได้ในระยะยาว ส่วนตัวผมแนะนำว่าควรใส่แผ่นปิดกันลมใต้คาง หรือ chin wind stopper เอาไว้เลยจะดีกว่า

บอกเลยว่า Nexx X.wed 3 เป็นหมวกกันน็อค Adventure Touring ที่มีระบบระบายอากาศดีที่สุด เท่าที่ผมเคยได้มีโอกาสใช้งานมา จึงไม่ใช้การโม้แต่ประการใด…….. ต่อให้ซื้อเองก็จะโม้แบบนี้แหละ!!!

อีกจุดที่ชอบมา คือเขาเคลมมาเลยว่า Nexx X.wed 3 มาพร้อมกับ Panoramic Eye Port ออกแบบให้มีทัศนวิสัยกว้างกว่าเดิมถึง 18% และรวมไปถึง Sun Visor แบบ  UltraWide Inner Sun visor ที่กว้างและลงมาปิดจมูกได้เยอะขึ้นเช่นกัน อันนี้ชอบมาก เพราะเวลาเอา Sun visor ลง มองไปแล้วมันแทบไม่มีช่องว่างด้านล่างให้ระคายทัศนวิสัย ดีจริงอีกข้อ!!!

แน่นอนว่าเจ้าชิ้น Visor แบบ PC Lexan shield clear with Anti-Fog position and Super Lock หลักใสๆเนี่ย ผลิตจากโพลีคาร์บอเนตแบบหนาบึ่ก!! ออกแบบให้รับแรงกระแทกได้ และสะท้อนแรงกระแทกเด้งออกไปได้ด้วย แข็งแรงและเหนียวขนาดว่ารถเหยียบไม่หักก็แล้วกัน และมีตัวล็อค Visor ที่ปิดแล้วแน่นหนาแข็งแรง ซึ่งเวลาจะเปิด Visor ขึ้นรับลมก็ต้องออกแรงดันกันนิดนึง

ตัว Visor ใส เวลาจะปลดออกมาทำความสะอาด ก็ปลดตรงนี้ เป็นอีกรุ่นที่ออกแบบมาให้ปลดออกง่ายมาก  และ ใส่กลับไปได้ง่ายมาก อันนี้ชอบจริง

อ่อ สวิทช์เลื่อน Sun Visor ขึ้น – ลง หน้าตาจะเป็นแบบนี้นะ ตำแหน่งจะอยู่ที่เหนือขมับซ้ายไปหน่อยนึง  ก็ออกแบบให้อยู่ในจุดที่เข้าใจไม่ยาก และคุ้นชินได้ง่าย ที่สำคัญคือใช้งานได้ดี ลื่นๆไม่มีขัด แต่ก็ฝืดพอที่จะไม่เลื่อนเอง

นอกจากวัสดุที่นำมาเป็นเปลือกนอกของหมวก อีกจุดที่แตกต่างระหว่าง Nexx X.wed 3 ZERO PRO CARBON 3K กับ Nexx X.wed 3 X-MATRIX2 Multi-Composite Fiber นั่นคือ

Nexx X.wed 3 ZERO PRO CARBON จะมาพร้อมกับชิ้นโฟม X-Foam crash bumper ซึ่งจะช่วยลดแรงกระแทกที่จะไปกระทำต่อไหปลาร้าของผู้ขับขี่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ โอ้โห ใส่ใจขนาดไหนก่อน ตัวนี้คือว้าวจริงบอกเลย

FRS (Fast Release System) เป็นอีกเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ Nexx Helmet ออกแบบขึ้นมาใหม่ โดยชิ้นนวมแก้มทั้งสองข้าง ออกแบบให้ปลดล็อกออกมาได้ง่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และมีระบบล็อคที่ลองถอดๆใส่ๆแล้วบอกเลยว่าโคตรเจ๋ง ถอดง่าย ใส่ง่าย สลักล็อค พุกล็อค แน่นหนาดีทุกจุด

เรื่องการปลดนวมแก้มแบบฉุกเฉินนี่สำคัญมาก เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะสามารถถอดหมวกกันน็อคให้ไม่กระทบส่วนกระดูกต้นคอและจุดเชื่อมประสาทกับกระดูกสันหลัง เพราะถ้าถอดไม่ดีนี่จากรักษาการบาดเจ็บได้อาจจะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงได้ไม่ยาก ซึ่งบางครั้งเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงและจะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจในระหว่างปฐมพยาบาลหรือเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ ยังไงก็ต้องถอดหมวกกันน็อคออก ซึ่งการถอดหมวกกันน็อคแบบฉุกเฉินที่ถูกวิธีนั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดโอกาสบาดเจ็บของระบบประสาทหลักเพิ่มเติมได้อีกด้วย

ปลดตรงนี้ด้วยการเอาเล็บสะกิดเขี่ยเดือย มันก็จะเด้งขึ้นมาแบบง่ายๆ > แล้วก็ดันสลักพลาสติกสีแดงไปอีกด้าน > แล้วเราก็จะปลดนวมแก้มออกมาได้ง่ายๆเลย

ไหนๆก็ถอดนวมแก้มมาแล้ว ก็ให้ดูเลยว่าหน้าตาเป็นแบบไหน ตัววัสดุที่นำมาบุเป็นนวมแก้ม ด้วยการตัดเย็บประกอบที่ปรานีต สวมใส่กระชับสบายสมราคา และมีการฉลุรูตรงหูไว้ให้เสียงจากลำโพงบูลทูธ หรือ เสียงจากภายนอกเข้ามาที่หูได้ดียิ่งขึ้นกว่าแบบทึบด้วย  จากด้านในเราจะเห็นสลักล็อคสามจุดที่ออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างของชิ้นนวมแก้มเลย ล็อคง่ายดี ปลดง่ายดี

ไหนๆก็ปลดนวมแก้มออกมาแล้ว ก็ให้ดูด้านในของเปลือกในช่วงแก้มกันเลย จะเห็นได้ว่าออกแบบให้รองรับลำโพงบลูทูธเอาไว้อย่างดี (เซาะร่องกลมๆลึกลงไปประมาณ 40mm) รายละเอียดจุดต่างๆ เห็นเลยว่า เออ ทำไมมันใบหมื่นกว่า สองหมื่นกว่า พวกเล่นออกแบบกันละเอียดยิบเลย

คือละเอียดซะแบบ วันไหนรื้อหมวกมาทำความสะอาดแบบ Big Cleen นี่คงต้องถ่ายวีดีโอตอนถอดบางจุดเอาไว้ ไม่งั้นงงตอนใส่กลับแน่ๆ

ถอดแล้ว ก็ถอดให้หมด มาดูนวมบนช่วงกระหม่อมและหลังกระโหลกกันบ้าง  ออกแบบให้มีโครงสร้างหลักจากผ้า X-Mart Dry และฟองน้ำ ที่มีลักษณะเหมือนถุงลม ที่ให้ความกระชับและระบายอากาศได้ดีมากๆ สวยงาม ดูหรู ดูแพง ด้วยเทคโนโลยี  Soft anti-sweat and anti-allergic fabric inner lining เมื่อทำงานร่วมกับระบบระบายอากาศและช่วยไหลเวียนอากาศ Mid Air Flow Chamber ของ ESP System  ใครทำให้นวมหมวกรุ่นนี้เหม็นได้นี่คือต้องซกมกมากๆหน่อยนะ!!

อีกฟีเจอร์เสริมของ Nexx X.wed 3 คือช่องสำหรับอุปกรณ์สื่อสารบูลทูธแบบบิวท์-อิน ที่สามารถซื้อ X – com 3 มาติดตั้งเพิ่ม เพื่อเพิ่มความสะดวกในการสื่อสาร ไม่ว่าจะรับ-คุยสายโทรศัพท์ ฟังเพลง หรืออินเตอร์คอมเชื่อมต่อกับบลูทูธเครื่องอื่นๆ

โดยมี  X- com 3 ให้เลือกเสริมได้สองรุ่น ทั้ง X – com 3 ตัวพื้นฐานที่เชื่อมต่ออินเตอร์คอมในระบบเดียวกัน (Bluetooh 5.2) ได้ 4 เครื่อง  (ใช้งานได้ 13 ชั่วโมง) / เชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นได้สองอุปกรณ์ ทั้งโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์นำทาง (GPS) / รับสัญญานเชื่อมต่ออินเตอร์คอมในที่โล่งได้ไกลสุดถึง 2 กิโลเมตร / ป้องกันน้ำเข้า

และ X – com 3 Pro ที่เชื่อมต่ออินเตอร์คอมในระบบเดียวกัน (Bluetooh 5.2) ได้ 10 เครื่อง  (ใช้งานได้ 13 ชั่วโมง)  / และ เพิ่มเติมระบบเชื่อมต่ออินเตอร์คอมแบบ Mesh intercom ได้ (ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง) เชื่อมต่อ Mesh intercom ได้ 24 เครื่อง  / เชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นได้สองอุปกรณ์ ทั้งโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์นำทาง (GPS) / รับสัญญานเชื่อมต่ออินเตอร์คอมในที่โล่งได้ไกลสุดถึง 2 กิโลเมตร / ไมค์โครโฟน + ลำโพง harman kardon ทั้งสองข้าง / ป้องกันน้ำเข้า

ด้านหลังของหมวก มีก้านล็อคลสายแว่นวิบาก [Goggle Strap] มาให้ด้วยนะ และถ้าไม่ใช่ก็สามารถถอดออกเก็บไว้ได้ด้วยจ้า

จุดสังเกตที่พบเจอ ด้วยช่องอากาศเข้าที่มีเยอะถึง 7 ช่อง และมีพื้นที่ให้อากาศโฟลว์ช่วงปากค่อนข้างมาก หากสวมใส่ขี่มอเตอร์ไซค์ที่ไม่มี Windshield ที่ใหญ่มากพอจะบังลมที่จะมาผ่านช่วงลำตัวและศีรษะของผู้ขับขี่ได้มาก จะเกิดลมย้อนเข้าใต้คางที่อาจจะมากเกินไปสำหรับบางท่าน จึงอาจจำเป็นต้องใส่แผ่นบังลมใต้คาง

และแน่นอนว่าด้วยรูปทรงของหมวกที่มีสันเหลี่ยม และมีมิติของช่องอากาศเข้าค่อนข้างมาก ในส่วนของเสียงลมที่กระทบส่วนต่างๆหมวกนั้น โดยรวมแล้วหากแบ่งเป็นคะแนน จะอยู่ที่ประมาณ 7/10 คะแนน เมื่อประกอบเข้ากับการใช้งานบลูทูธ SENA 50C ที่มาพร้อมกับลำโพง harman / kardon เพื่อเปิดเพลงฟังขนาดขับขี่ นั้น เมื่อเปิดเสียงลำโพงดังประมาณ 70% ขึ้นไป ก็ยังให้เกณฑ์ความดังที่หูรับฟังได้ในเกณฑ์ดี

แต่แม้ตัวหมวกจะมีน้ำหนักไม่น้อย [1,700 กรัม +/- 50 กรัม] แต่ด้วยจัดวางสมดุลน้ำหนักในส่วนต่างๆของหมวกและการจัดการแอโรว์ไดนามิกที่ค่อนข้างดี ในทริปล่าสุด กรุงเทพ – เบตง – บ้านกรูด – กรุงเทพ ในระยะทางเกือบ 3,000 กิโลเมตร กับรถมอเตอร์ไซค์สกูตเตอร์ที่ไม่มี Windshield ใดๆ ถือว่ามีอาการปวดเมื่อยคอบ้างตามปกติของท่านั่งและทิศทางลมที่มากระทบหมวก แต่ก็ไม่รุนแรงถึงขนาดต้องหยุดพักการขับขี่เพราะปวดเมื่อยคอแต่อย่างใด (พักเพราะปวดตูดมากกว่า)

ส่วน Peak บังแดดที่ติดมากับหมวกนั้น สามารถปรับองศาได้ 3 ระดับ ส่วนตัวใช้ระดับที่ติดตั้งมากับหมวก ก็ไม่พบอาการ Peak ต้านลมในย่านความเร็วที่ใช้งาน (ไม่เกิน 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ส่วนใครจะขี่เกินกว่านั้นแล้วจะเจออาการ Peak ต้านลม หรือไม่ จุดนี้เกินกว่าจะให้ข้อมูลได้ในกระทู้นี้ เพราะขี่เกินกว่านี้หน้าลูกก็ลอยมาแล้วจ้า

ความเร็วสูงสุดที่ลองก็กับคัน Harley Davidson Pan America นี้แหละจ้า

หลักๆเท่าที่นึกออกของ Nexx X.wed 3 ก็จะประมาณนี้ สำหรับท่านที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่   http://www.pandarider.com  ในส่วนของรีวิวนี้ต้องขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามรับชมรีวิวของแอดหมีโอม ด้วยดีเสมอมาครับ