เที่ยวหน้าร้อน นอนทะเล แบบเท่ห์ๆ สไตล์ Royal Alloy GP150F

แชร์บน

เที่ยวหน้าร้อน นอนทะเล แบบเท่ห์ๆ สไตล์ Royal Alloy GP150F

สวัสดีอีกครั้งครับ หายหน้าหายตาไปสามเดือน แต่ก็ยังกลับมาเนืองๆนะครับ แฮ่ๆ

วันนี้จะมาพาเที่ยวกับรถ Scooter สไตล์ Vintage ที่ต้องบอกว่าไม่ค่อยจะได้ผ่านไม้ผ่านมือสักเท่าไรครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เข้ามาในโลก Vintage Scooter  ถ้าข้อมูลผิดถูกประการใดก็ขออภัยมือใหม่ด้วยนะขอรับ

เอาหล่ะ ในตลาด Vintage Scooter จริงๆ ก็มีมาสักพักนึงแล้วและก็เริ่มนิยมขึ้นเรื่อยๆเท่าที่เห็น มีมาทั้งในรูปแบบที่ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้มีความ  Modern รับกับการใช้งานในยุคใหม่ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น  ในขณะที่อีกรูปแบบหนึ่ง ก็พยายามคงรักษารูปลักษณ์ เส้นสายความสวยงามในแบบ Vintage
ไว้ให้ได้มากที่สุด

และม้าศึกครั้งนี้ เป็นคันหนึ่งที่อยู่ในรูปแบบที่พยายามคงความ Original ของ Vintage Scooter ชื่อดังไว้ให้ได้มากที่สุดและพยายามผสาน Technology สมัยใหม่เข้ามาส่วนหนึ่งเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

ม้าศึกคันนี้มีนามว่า Royal Alloy GP150F 4V และคราวนี้จะพามาเดินทาง เลาะชายทะเลตะวันออก แบบ NO PLAN ล่วงหน้า ( แพลนกันแบบวันต่อวันนี่แหล่ะะะะะ ) แต่บอกตามตรงนะครับ NO PLAN มันไม่ได้เท่ห์อะไรหรอก มันมีแต่นำความเละเทะของทริป ( ที่ไม่มีจุดหมาย ) 555 แต่ทำงัยได้ คนมันไม่มีเวลาวางแผนอ่ะ งัยก็เถอะ ลุยเลยแล้วกัน

เอาหล่ะ ก่อนออกเดินทาง มาทำความรู้จักเจ้าม้าศึกของเรากันก่อนดีกว่า

รูปลักษณ์

สำหรับรูปลักษณ์ของ RA  นั้นมาในแบบ Retro จ๋า ที่คงความ Vintage ของต้นแบบไว้เกือบเต็มรูปแบบเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเรื่องความสวยงามจะเป็นเรื่องปัจเจก แต่ว่า ต้องขอบอกว่า รถคันนี้ 70% ของการจอดจะมีคนชม หรือเดินเข้ามาชมแล้วบอกว่า “รถสวยจังเลยยยย” ซึ่งก็ต้องบอกว่า Design แบบนี้มันค่อนข้างโดนต่อมความสวยของคนส่วนใหญ่เลยทีเดียว  (รูป : จขกท ที่มะโนว่า อยู่ที่ชายหาดแล้ว >__<)

สำหรับตัวถังนั้นเป็นเหล็กตามต้นฉบับ ยกระดับความรู้สึก Premium ขึ้นไปพอสมควร ประกอบกับรายละเอียด detail การตกแต่งด้วย สีสัน ลวดลายและแถมโครเมี่ยม คือไม่ได้อวยนะครับ บ่องตรงว่า มันดูลงตัวมากๆ

มาดูหน้าตรงกันบ้าง ก็ต้องยกนิ้วให้คน Design ต้นฉบับจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่า Design จากปี 60 มันจะยังคงงดงามในยุค 2020 ได้ขนาดนี้ และก็ต้องชม Royal Alloy เหมือนกัน ที่นำเอา Design นี้มาใส่ในรถยุคปัจจุบันให้ได้สัมผัสกัน แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่จะยกมาจากอดีตกาลเน่อออ ไฟหน้าสมัยใหม่แบบ LED ที่ต้องบอกว่า “จะสว่างไปมั๊ย” แถมข้างในยังมี Signature ของ Royal  มาดูมุมคนขับกันบ้าง สวยงามตามท้องเรื่องเลยเนอะ Alloy เค้าอยู่ด้วย

มาดูของที่มีประโยชน์กันบ้าง  ตะขอแขวนของ, ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้ากว้างขวาง ที่มีช่องชาร์จ USB แบ่งโซนวางโทรศัพท์ให้ด้วย Option เหล่านี้ของของที่ได้ใช้แน่นอนในชีวิตประจำวัน ใช้ไปใช้มาขาดไม่ได้ด้วย ไม่มีเหมือนจะขาดใจ

เรือนไมล์ Vintage สวยงามน่ารัก บอกทั้งความเร็ว รอบ เกจน้ำมัน ไฟแบตเตอรี่ ระยะทริปและระยะทางทั้งหมด ถ้าให้ดี อยากได้นาฬิกาด้วยนะครับ แฮ่ๆ

มาดู Spec กันเล็กน้อยเพื่อเป็นข้อมูล

โดยรวมจากที่ได้ลองขี่เบื้องต้น สิ่งที่น่าจะเป็นอุปสรรคสำหรับรถหน้าตาแบบนี้คือ “ความสูงเบาะ”  ซึ่งถือว่าไม่เตี้ย อาจจะทำให้ใช้งานได้ลำบากอยู่นิดนึงเหมือนกัน แต่ใช้ไปสักระยะก็จะคุ้นชิน แต่สิ่งที่ได้มาทดแทน คือ Ground Clearance ซึ่งสูงพอสมควร มั่นใจได้ว่าขึ้นเนินหลังเต่าใต้ท้องรถไม่ครูดพื้นแน่นอน แต่เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่ขึ้นหลังเต่า ขึ้นฟุตบาทยังได้เลยอันนี้ลองแล้ว

น้ำหนักรถเปล่า 122 กิโลกรัมเมื่อรวมของเหลวแล้วคาดว่าไปแถวๆ 130 กลางๆ ปลายๆ ถือว่าไม่เบาสำหรับรถคลาสนี้ แต่ถ้าคิดว่าตัวถังเป็นเหล็กมันก็ถือว่าไม่หนัก แถมน้ำหนักจุดศูนย์ถ่วงอยู่ค่อนข้างต่ำทำให้เวลาขับขี่หรือควบคุมไม่รู้สึกว่ารถหนัก แต่อย่างใด

ถ้าใครหลุดเข้ามาในโลก รถ Vintage scooter แล้ว ต้องบอกว่า ขี่เดิมๆ ยอมเดินดีกว่า 555 มาดูของแต่งที่เพิ่มความสวยของรถสักนิด

ของแต่ง
รถทดสอบคันนี้ มาพร้อมชิลด์หน้าแต่ง ที่ขอบอกว่า ลงตัว งานเนี๊ยบ สวยจัดและตัดลมได้จริงเวลาเดินทางไกล ด้านหน้ามีชิลด์แต่งแล้ว ด้านหลังจะขาดไม่ได้กับกระเป๋าทรง Vintage งานเนี๊ยบจาก Royal Alloy มันทำให้ตัวรถดูมีทรง “นักเดินทาง” มากขึ้น 55 ด้วยความที่ตัวถังเป็นเหล็ก ที่วางเท้าอาจจะให้ความรู้สึกกระด้างเท้านิดนึง ถึงแม้เดิมๆจะมียางรองมาให้ เพื่อสัมผัสที่นุ่มสบายเท้า  เราต้องมียางรองพื้น ของแต่งจากศูนย์มาให้ อาร์รรรรรร  นุ่มสบายเท้า

เอาหล่ะ ออกเดินทางกันเราใช้ถนน บางนา ตราด เพื่อมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกกับการออกทริปฤดูร้อนและนี่คือสิ่งที่ผมคิด แต่ความเป็นจริง!!!!

พายุ ฤดูร้อน ถล่มซะเละ หนีแทบไม่ทัน
search อากู๋เร็วๆ หาร้านหนีตาย ที่ใกล้ที่สุดและน่าจะอร่อย
หวยมาออกที่  เจ๊เนี้ยว  หอยทอดแป้งนิ่มสูตรโบราณ
https://goo.gl/maps/owWNyVeay9YvRePG9

ฝนเทลงมาแบบไม่บันยะบันยัง

เสร็จแล้วก็ไปแล้วก็แดดก็แผดแบบว่า ร้อนในทันที!!!
เอ่อ หลบแดดก่อน

ร้านกาแฟข้างทางในชลบุรี แบบไม่มีแพลน อีกเหมือนกัน
แค่เห็นชื่อ คลาสสิค คอฟฟี่
เออ มันเข้ากันดีกับรถ
https://goo.gl/maps/R2Cfz7rVmCsWUWcA6

เพลินกับร้านกาแฟมากไปนิดนึง เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว
รีบยิงยาวเดินทางต่อกันดีกว่า
เป้าหมายของเราคือ บางพระ
เห็นเค้าว่ามีสวนสาธารณะริมทะเลและสะพานปลาที่สวยไม่หยอกอยู่นาาาา

และในที่สุด   เรามาถึงทะเลลลลลลลลลลลลลลลลล

รถสวยถ่ายมุมไหนก็สวย 55555555

เอาหล่ะ ขี่มาสักระยะนึงทั้งในเมืองและทางยาวๆ
ก็พอจะจับความรู้สึกเกี่ยวกับเครื่องยนต์ลูกนี้ได้บ้างแล้วหล่ะ ขอเหลาเลยละกัน

เครื่องยนต์

เสป็คหน้ากระดาษ
สำหรับเครื่องยนต์นั้น ตาม Spec หน้ากระดาษ
เป็นเครื่องยนต์หม้อลม ชักสั้น แถมวาล์วเยอะถึง 4 ตัว ซึ่งก็เดาเอาไว้ว่า รอบต้นไม่จัดจะไปให้กำลังดีๆช่วงปลายเสียมากกว่า
ที่น่าสนใจอีกอย่างนึงคือ รอบแรงม้ายังมาในรอบถึง 8,500 รอบซึ่งค่อนข้างสูงมาก
สำหรับเครื่องหม้อลมที่มีกำลังอัดสูงถึง 11.0:1

สำหรับแรงม้า แรงบิดที่ทำได้ตามสเป็คหน้ากระดาษถือว่า ตัวเลขน่าประทับใจสำหรับเครื่องหม้อลม

ลองของจริง

สัมผัสแรกตั้งแต่เริ่มขับขี่ การออกตัว การเร่งเป็นไปในทางแนวนุ่มนวลเหมือนรถค่าย Vespa
อัตราเร่งมาแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ฟีลลิ่งการขับขี่แบบ Luxury ดี ซึ่งถือว่า เหมาะกับ character ของรถตรงนี้ให้ 8 คะแนนเลย
จะตินิดนึงก็ตรง แรงบิดรอบต้นที่รู้สึกว่า น้อยไปนิดนึง กับน้ำหนักรถเปียก 130 กว่าๆ กิโลกรัม

ในด้านการจ่ายน้ำมันที่ใช้ระบบหัวฉีดและการส่งถ่ายกำลังถือว่าทำได้ไม่บกพร่อง ไม่มีตะกุกตะกักหรือติดขัดอันใด
สำหรับการขับขี่แบบออกทริปกับน้ำหนักบรรทุกเต็มอัตราศึกกว่า 160 กิโลกรัม และใช้คันเร่งโดยส่วนมากกว่า 70-80% อยู่ตลอดเวลา
สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้ 30-35 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่า ไม่ได้ประหยัด แต่ก็ไม่ได้กินมากมายอะไร
ถังน้ำมัน 11 ลิตร กับอัตราการสิ้นเปลืองที่ว่ามา สามารถขับขี่ได้ยาวๆ 250 กิโลเมตรเติมน้ำมันสักทีกำลังงามเลย

Top speed ที่ลองลากดูได้ประมาณ 105-109 ตามสภาวะลมและการบรรทุกขนาดนี้ ถือว่าไม่แย่แต่ก็ไม่ได้โดดเด่น

โดยรวมๆ เครื่องยนต์ลูกนี้น่าพึงพอใจในแง่ฟีลลิ่งความนุ่มนวลให้สัมผัสค่อนข้าง Luxury แต่ในแง่สมรรถนะโดยรวมถือว่าน้อยไปนิดนึง
แต่ก็เหมาะสมกับรูปลักษณ์รถแล้ว  เอาแต้มไป 8 คะแนนแล้วกัน

เมื่อคืนชิลจัดที่สวนสาธารณะชายทะเลบางพระจนดึกไปหน่อย
เลยนอนโรงแรมจิ้งหรีดแถวบางพระนั่นแหล่ะ คืนละ 400 กว่าบาท
เช้ามาต้องขอแวะไปสถานที่ยอดนิยมเสียหน่อย

อ่างเก็บน้ำบางพระ

ขี่รถรอบๆ อ่างหาดูว่าที่ไหนพอจะปักหลักหากาแฟและมื้อเช้ากินได้บ้าง
มาเจอที่นี่ครับ

จุดพักรถบนทางหลวง 3144 ริมอ่างเก็บน้ำบางพระ
https://goo.gl/maps/PnmkBR8UXGfUZ3vs7

มาถึงช่วงเช้าๆ เห็นมีร้านกาแฟกับร้านเบอร์เกอร์พอที่จะประทังชีวิตยามเช้าได้
ว่าแล้วก็จอดรถกันเลยยยย

เบาะ : พูดถึงเรื่องเบาะ มารีวิวเบาะรถกันนิดนึง
เบาะที่ให้มาเป็นเบาะสองตอน หน้าตาดูดีมีชาติตระกูลเข้ากับรถมากๆ
ตัวรูปลักษณ์เบาะดูมีรายละเอียดสวยงาม ไม่ตรงๆ ทื่อๆเหมือนรถตลาดทั่วไป
เนื้อเบาะไม่นุ่ม ไม่แข็ง คือกำลังดี นั่งสั้นๆ ไม่เจ็บ นั่งยาวๆ ไม่ปวด
โดยรวมถือว่า OK เลย

เบาะชิ้นหน้าสามารถดึงขึ้นมาได้เลย ไม่ต้องใช้กุญแจอะไร เพราะใช้ระบบตัวดูด 6 ตัวล็อคติดกับตัวถัง ซึ่งสามารถเปิดได้ง่ายดี
เมื่อเปิดขึ้นมาจะเจอกับฝาถังน้ำมัน แต่การจะเติมน้ำมันได้ต้องใช้กุญแจรถ ซึ่งก็แอบลำบากอยู่นิดนึงตอนเติมน้ำมัน
ข้อเสียของรถรุ่นนี้เมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่ก็อาจจะตรงที่ไม่มีที่เก็บของใต้เบาะ  

เอาหล่ะ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่รอคอย
Breakfast & Coffee Time!!!!
เราโชคดีที่มีร้านกาแฟและ Burger อยู่ติดกันเลย
เราจึงซื้อ Burger จากร้าน Uncle jeab burger
https://goo.gl/maps/bRrD2pFmnARpj1U89

เดินทางกันต่อยาวๆ
เป้าหมายปลายทางของเราคือ สัตหีบ

ดังนั้นเราจึงเร่งกันเดินทางต่อบนถนนสุขุมวิท
เราขี่ผ่าน Mimosa เมืองนอกจำลองแถวๆพัทยา
อดีตเคยรุ่งเรืองอยู่พักนึงแต่ตอนนี้รกร้าง ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก
https://goo.gl/maps/SzHNcxvN14kakDvS8

ขี่มาสักพัก บ่ายคล้อยๆ แล้ว ชักหิว
เราเดินทางมาถึง บางเสร่ ขอแวะเติมพลังและหลบแดดอันร้อนแรงเสียหน่อย

ตะแคงชาม
https://goo.gl/maps/w7WdQEtXY1MgF51t6
ร้านอาหารริมทางปากทางเข้าอำเภอบางเสร่

ท้องอิ่มแล้ว เราก็เดินทางกันต่ออีกนิด

ชายหาดบางเสร่
จุดเด่นของหาดบางเสร่เลยคือ ถนนติดชายหาดแบบห่างจากน้ำทะเลเพียงไม่เกิน 3-5 เมตร
และเป็นชายหาดที่เล่นน้ำได้ เรียกได้ว่า ไม่ได้ลงน้ำ ได้ขี่รถใกล้ๆ หาดสวยๆ น้ำใสๆ ก็ยังดี
https://goo.gl/maps/5H8c6QPU6YoEwpPj9

ท่านั่ง
มาดูท่านั่ง กับ การขับขี่กันนิดนึง
ชายร่างท้วม สูง 177 ซม ท่านั่งก็จะออกมาประมาณนี้
เอาจริงๆ ถ้าแฮนด์ยกสูงกว่านี้อีกสักเล็กน้อยจะสบายเลยนา
แต่ประมาณนี้ก็โอเคอยู่ ขับทางไกลก็ไม่ได้เมื่อยอะไรครับ

ท่านั่งอาจจะไม่ติด แต่ท่าจอดรถอาจจะลำบากนิดนึง
ด้วยความสูงของเบาะ สำหรับผมที่สูง 177 ซม ลงขาเดียวได้เต็ม
แต่สองขาก็มีเขย่งแหล่ะ  แต่คิดว่าคนที่สูงเกิน 165 ขึ้นไป น่าจะลงขาเดียวได้ไม่มีปัญหานะครับ

Royal Alloy GP150F 4V เป็นรถที่บรรทุกได้เยอะเอาเรื่อง
แม้จะไม่มีใต้เบาะให้เก็บของ แต่ด้วย Floor board ขนาดใหญ่และช่องเก็บของด้านหน้า
และ Rack + กระเป๋าด้านท้าย ทำให้บรรทุกของได้เยอะเหมือนกัน
นี่ยังขาด Rack หน้ารถและกระเป๋าข้างนะเนี่ย
เมื่อผสานกับถังน้ำมัน 11 ลิตรเนี่ย เป็นรถทัวริ่งที่ดีทีเดียว
ว่าแต่มาถึงตรงนี้ ชักอยากลองตัว 300 cc เสียแล้วสิ ว่าจะวิ่ง Touring ได้ดีขนาดไหน

ช่วงล่าง
เอาหล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก่อนออกเดินทางจากบางเสร่
เราจะไปเทสช่วงล่างกัน เรามาสำรวจระบบช่วงล่าง ยาง เบรกกันหน่อย

ช่วงล่างหน้ามาในแบบ Trail Link แขนคู่พร้อมโช๊คคู่หน้าแบบสามารถปรับพรีโหลดได้ด้วย คือดีมากๆ
ข้อดีของระบบช่วงล่างแบบนี้คือ มุมแคสเตอร์จะไม่ค่อยเพี้ยนเวลาเร่ง หรือเบรกหนักๆ
ทำให้ตัวรถค่อนข้างเสถียร จากความรู้สึกที่ใช้เมื่อเทียบกับรถ Scooter ล้อเล็กที่ใช้โช๊คแบบ Telescopic
กลับชอบช่วงล่างแบบนี้มากกว่าอีกแฮะ

ล้อขนาด 12 นิ้วอาจจะเล็ก แต่หน้าสัมผัสขนาด 110 จับคู่กับช่วงล่าง Trail link โช๊คคู่ ถือว่าเอาอยู่

ระบบเบรกหน้าที่ให้มา มาพร้อมปั๊มลูกสูบคู่ ที่มีกลไกพิเศษของ Combine Brake
ถ้ากำเบรกหน้า ปั๊มเบรกจะจับเบรกหน้าอย่างเดียว แต่ถ้ากำเบรกหลัง เบรกหลังและเบรกหน้าจะทำงานพร้อมๆ กัน แต่เบรกหน้าจะทำงานในสัดส่วนที่น้อยกว่ากำเบรกหน้าตรงๆ

สิ่งที่พิเศษหน่อยคือ มันมาพร้อมกับสายถักจากโรงงานเลยหล่ะ

ในเรื่องของฟีลลิ่งและผลลัพธ์การทำงานของเบรกหน้าล้วนๆนั้น
ออกแนวทื่อและแข็งไปสักหน่อย แต่กำหนักๆ ก็เอาอยู่

เบรกหลังเท่าที่มองเป็นปั๊มลูกสูบเดี่ยวและจะทำงานในโหมด Combine Brake กำเบรกหลัง เบรกหน้าจะเบรกให้ด้วยเพื่อความปลอดภัย
ฟีลลิ่งที่ก้านเบรกเวลากำเบรกหลังรู้สึกดีกว่ากำเบรกหน้าพอสมควร ที่สำคัญมันให้ความรู้สึกว่าเบรกหลังแล้วเอารถอยู่กว่าเบรกหน้าอีก
แต่มันก็แค่ความรู้สึก เพราะอย่างไรเบรกหลังก็สู้เบรกหน้าไม่ได้
แต่ฟีลลิ่งและประสิทธิภาพของเบรกหลังนั้น ถือว่า ดีกว่ารถทั่วๆไประดับนึงเลยหล่ะ
อันนี้กด Like เลยครับ

เอาหล่ะ ได้เวลาลองของจริง

Handling & Riding
ต้องบอกได้จาก จากที่ได้ลองขี่ทางตรงและทางโค้ง
เรากลับพบว่า รถมันวิ่งทางตรงได้เสถียร และเข้าโค้งได้เสถียรเกินหน้าตา Retro ของมันไปพอสมควรเลยทีเดียว
มันเข้าโค้งได้ค่อนข้างนิ่งเลย น่าจะเป็นเพราะอานิสงส์ของช่วงล่างหน้าแบบ Trail Link แบบโช๊คคู่ปรับระดับได้
และหลังก็คู่ปรับระดับได้เช่นกัน

เอาจริงๆ กลับแอบรู้สึกว่าเหมือนจะดีกว่ารถ Auto ทั่วๆไปอยู่หน่อยนึงด้วยนะ
แถม Ground Clearance ก็สูงมาก  สายป๊อดอย่างผมไม่สามารถเอาชิ้นส่วนอะไรไปครูดพื้นได้
แตกต่างจากรถ Auto ทั่วๆไปมาก ที่เอียงรถนิดเดียวก็ต้องมีครูดพื้นกันเลย

แล้วถ้าถามถึงความคล่องตัวของการใช้งานในเมือง ก็ต้องบอกว่า โดยรวมนั้นไม่มีปัญหาเลย
จะติดอยู่สองเรื่องก็คือ ความสูงของเบาะ กับ คอรถที่หักได้น้อย ทำให้วงเลี้ยวค่อนข้างจะกว้างสักหน่อย
นอกนั้นโดยรวมไม่ติดปัญหาอันใด

โดยรวมๆ ผมถือว่า Royal Alloy GP150F 4V นั้นมี Handling และการขับขี่เกินที่คาดคิดไว้
ดีในระดับที่ถือว่าพอๆกับ Modern Scooter ทั่วๆไปเลย  เอาไป 8.5 ดาว

ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง สัตหีบ ดินแดนแห่งทหารเรือ 
รู้สึกชอบที่นี่นะครับ เพราะว่าบรรยากาศสะอาดสะอ้าน ผู้คนน้อยดี

ในท้ายที่สุด เราก็ได้พาเจ้า Royal Alloy GP150F 4V มาถึงปลายทางที่เราตั้งใจไว้แล้ว
ถึงแม้จะไม่ได้ไกล วิวไม่ได้ว๊าว แต่ก็เป็นการเดินทางที่ดีในฤดูร้อนครั้งนี้

ส่วนขากลับก็ไม่มีอะไร ยิงยาวกลับ กทม เลย
เป็นอันจบทริป เที่ยวหน้าร้อน นอนทะเล ของเรา

ปิดจบทริปเที่ยวแล้ว
ขอปิดจบ สรุป ทดลองการใช้งานรถ Royal Alloy GP150F 4V กันบ้าง

บทสรุป
        Royal Alloy GP150F 4V เป็นรถ Modern Scooter ที่มาในรูปลักษณ์ Vintage แบบเต็มรูปแบบที่ทำออกมาแล้วต้องบอกได้ว่า
“สวย” ลงตัว ในทัศนะของผู้เขียนคือ “สวยที่สุด” แล้วในคลาส  เครื่องยนต์ 4 วาล์วใหม่ที่ให้มาถือว่าเหมาะกับ Character รถคือนิ่มนวล สมูธ ให้ความรู้สึกแบบ Luxury ในส่วนของสมรรถนะตัวรถเองก็ถือว่า ดีเกินคาด

        ถ้าใครคิดว่า ตัวเราชอบสไตล์นี้ ลองพิจารณาดูได้ครับ ว่า Royal Alloy GP150F 4V นั้นเหมาะกับเราหรือไม่ ขอสรุปเป็นข้อดี ข้อเสียไว้ให้พิจารณาง่ายๆ คร่าวๆ ด้วย

ข้อดี
        + สวยจัด มีแต่คนทัก
        + ตัวถังเหล็กสวยงาม
        + รายละเอียดการตกแต่งลงตัว
        + ช่วงล่างดีเกินตัว
        + เครื่องยนต์ 4 วาล์วใหม่ นุ่มนวล เรียบเนียน ให้ความรู้สึก Luxury
        + ช่องเก็บของและ USB Charger
        + ของแต่งสวยงาม
        + ไฟหน้า LED สว่างเว่อร์
        + Ground Clearance เยอะมาก
        + เบาะนั่งสบายทั้งคนขับคนซ้อน
        + ขับขี่ทางไกลไม่เมื่อย
        
ข้อเสีย/ข้อสังเกต
        – เบาะสูง
        – วงเลี้ยวกว้าง
        – ขาตั้งคู่เอาขึ้น เอาลงยากไปนิด
        – กระจกมองหลังปรับมุมได้จำกัด
        – เครื่องยนต์กำลังน้อยไปนิด สัก 200cc น่าจะพอดี
        – การใช้งานโดยรวมอาจจะไม่สะดวกเท่ารถที่ออกแบบ แบบรถสมัยใหม่
        – ไม่มีที่เก็บของใต้เบาะ
        – ชิ้นส่วนรายละเอียดการตกแต่งเยอะ อาจจะต้องการการดูแลรักษาเพิ่มกว่าปกติ

สุดท้ายแล้ว ขอลาไปก่อน
ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านครับ

By : แอด เตี้ย ล่ำ ดำ แก่