“มาเลเซียนจีพี (2022)” จะอีกกี่ปีก็ยังคงต้องไป

แชร์บน

"มาเลเซียนจีพี (2022)" จะอีกกี่ปีก็ยังคงต้องไป

คอมอเตอร์สปอร์ตและวงการสองล้อ สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิตต์  เป็นอีกสนามที่มีเลเยอร์ของแทรคสวยไม่แพ้ที่อื่นๆในโลก และเป็นสนามเคียงคู่กับวงการมอเตอร์สปอร์ตมาช้านาน และปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังจากที่ประเทศไทย (สยามประเทศ) บ้านเราได้สิทธิจัดการแข่งขัน “โมโตจีพี” จำนวนผู้เข้าชมก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่นั่นมิได้ทำให้อรรถรสในการชมกีฬาสองล้อลดลงไปเลย

การเดินทางได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อดอร์น่าสปอร์ตกำหนดวันดวลความมันส์ ระหว่างวันที่ 21-23 ตุลาคม 2565  แอดจองตั๋วแบบปุ๊บปั๊บอาจทำให้ราคาที่ได้แพงกว่าการจองล่วงหน้า (ไปกลับ ราคา 6000 บาท) ตีเป็นเลขกลมๆ ไม่มีซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม จองไฟท์บินเช้าสุดทำให้รู้ว่าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ การไปสนามบินรอบเช้าด้วยรถสาธารณะที่เรียกผ่าน App ชม. เร่งด่วน คือ เต็ม เต็ม และเต็มค่ะ

ตัดสินใจเดินทางไปไปรอที่สนามบินเลยค่ะ  ได้อารมณ์แบบแบคแพคนอนรอไฟท์บินออก ในสนามบินมีที่ให้นอนพักนะคะ ห้องน้ำสะอาด หาจุดที่ปลอดภัยงีบซักหน่อย  พร้อมสามารถชาร์ตแบตได้อย่างเต็มที่ค่ะ 

การแลกเงิน ทริปนี้จิราใช้บริการของ SuperRich (สีเขียว) ซึ่งสะดวกมากมีที่ห้างใกล้บ้าน อัตรา ณ วันที่ 18-10-2022 อยู่ที่ 8.10 บาท : 1 ริงกิต

IMG_25651020_191124

เมื่อฟ้าสางก็ออกเดินทาง ปลายทางที่สนามบิน Kilia2 ประเทศมาเลเซีย ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที เวลาที่มาเลเซีย เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง 

ผ่าน ตม. แบบไม่ได้ถามอะไรเยอะ นอกจาก มาดูรถแข่งเหรอ กลับวันไหน , ขอดูไฟท์กลับหน่อย เราก็แสดงไฟท์ที่บินกลับจาก App ที่จองไปได้เลยค่ะ จากนั้น ตม. ก็จะสแตมป์ผ่านเข้าเมืองได้ให้เรา อ่ออันนี้สำคัญนะคะ เพราะมีจากไทยไปหลายคนที่เห็นเค้าเชิญไปห้องเย็นต่อ เอาจริงก็คือ การเข้ามาทำงานค่ะ ทางนี้เริ่มกวดขันมากขึ้น หากเอกสารเราพร้อม ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรน่ากังวลใจค่ะ 

วันที่เดินทางคือวันซ้อมแรกของรายการ (FP Day) แอดต้องเข้าสนามเลยดังนั้นการหาร้านรับฝากกระเป๋า เป็นอีกทางเลือกที่ดีของนักเดินทางค่ะ เดินออกมาหน่อยทางด้านซ้ายมือก่อนลงไปชั้นใต้ดิน แอดเลือกใช้บริการของที่นี่ ราคาไม่แพงด้วยค่ะ กระเป๋าใบเล็กเริ่มต้นที่ 13 ริงกิต (ฝากได้ 24 ชม.) ค่ะ

การเดินทางเข้าสนามเซปังฯ อยู่ห่างจากสนามบินเพียงไม่กี่กิโลเมตรค่ะ  สามารถเลือกได้ 2 ทางเลือก  1. รถแท็กซี่ (เรียกผ่าน Grab) สะดวก สบาย จ่ายเงิน ไม่ยุ่งยาก  2. รถบัสปรับอากาศแอร์เย็นฉ่ำ  ใช่ค่ะจิราเลือกวันแรกเข้าโดยรถบัสค่ะ ราคาเที่ยวละ 12 ริงกิต (ประมาณ 98 บาท) ลงจุดจอดและนั่งชัตเติ้ล บัสเข้าไปต่อ ลงหน้าทางเข้า เมนแกรนด์สแตน ได้เลย

มาถึงก็แวะรับบัตรเข้าชม หากใครยังไม่ได้จับจอง หรือยังไม่มีบัตร หน้าสนามทางเข้ามีจำหน่ายค่ะ ราคามีหลายเรทค่ะ มีเปิดจำหน่ายแบบ Early Bird ด้วยนะคะ (ใครไปชัวร์ๆแนะนำซื้อก่อนราคาลดลงไปเยอะพอสมควรค่ะ)  อ่ะมาต่อแนะนำราคาคร่าวๆ 

  • Main Grandstand  ราคาปกติ RM 345.00  ซื้อล่วงหน้าราคาพิเศษ RM 293.25 
  • K1 Grandstand ราคาปกติ RM RM 206.25 ซื้อล่วงหน้าราคาพิเศษ RM 175.31
  • F Grandstand ราคาปกติ RM 143.75  ซื้อล่วงหน้าราคาพิเศษ RM 122.19
  • C2 Hillstand ราคาปกติ RRM 93.75 

เป็นราคาที่นั่งปกตินะคะ หากท่านใดสนใจราคาอื่นๆสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.sepangcircuit.com/home

ส่วนแอดทริปนี้ต้องขอขอบคุณเพื่อนชาวมาเลย์ และขอบคุณนักบิดหมายเลข 12 พร้อมทีมแข่งที่เตรียมบัตรไว้สำหรับเข้าชม แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ดังนั้น จึงขอพาทุกท่านชมบรรยากาศหลังพิท แบบสุดพิเศษกันไปเลยค่ะ 

รับบัตรเรียบร้อย ก็ขอเดินชมบรรยากาศด้านในซักหน่อย ที่นี่ค่อนข้างซีเรียส การเข้าและออก แอดถูกสุ่มตรวจหลายรอบ ต้องแสดงบัตรพร้อมพาสปอร์ต ให้เจ้าหน้าที่ของดอร์น่า ซึ่งทุกอย่างตรงก็ไม่มีปัญหาค่ะ (ใช้คำว่าสุ่มตรวจนะคะ) คาดว่าเพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับนักแข่งและข้อมูลด้านอื่นๆ

นักแข่งและทีมแข่งก็จะทั้งเดินทั้งขี่ เวลาเดินเราก็ต้องระวังเอาค่ะ ถึงว่าเป็นโอกาสที่พิเศษมากๆ ที่ได้มาสัมผัสบรรยากาศด้านหลังพิท เดินชมในแพดด้อกแบบนี้

เคยสงสัยนักแข่งเค้ากินอะไรกันบ้างนะ มาครั้งนี้ได้รู้แล้วค่ะ ^^ เค้ากินอะไรเราก็กินแบบนั้น ต้องขอบคุณสำหรับการดูแลอย่างดีจาก Aprilia Racing 

สำหรับที่นั่งฝั่งแกรนด์สแตนก็มีให้เลือกหลากหลาย ปีนี้เป็นอีกปีที่สแตนไม่เต็ม ที่นั่งเหลือเยอะพอสมควรหากเทียบเมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่ประเทศสยามบ้านเราจะได้รับสิทธิจัดการแข่งขัน

มาดูก่อนเดินทางเข้า KL กันค่ะ รถไฟ รถบัส Grab สามารถเลือกได้ตามสะดวก ทริปนี้เลือกเดินทางด้วย Grab ค่ะ เนื่องจากต้องการทำเวลา (เดินในงานเหนื่อย และเจอฝน) เรียก Grab ไปสนามบินเพื่อรับกระเป๋า 35 ริงกิต และจากสนามบินในตอนแรกว่าจะไปรถไฟแต่คำนวณแล้วการต่อเดินๆๆและต่อรถอีกจากจุดที่รถไฟจอดน่าจะพอๆกับเรียก Grab ยิงยาว  ลงรูปไว้เป็นอัตราค่า Grab คร่าวๆนะคะ  เรียกถูกสุดจากโรงแรมไปตึกแฝด 9 ริงค่ะ ^^ 

ที่พักคืนแรก เลือกพักที่ ibis Kuala Lumpur City Centre ราคาคืนละ 1700 บาทไม่รวมอาหารเช้า ที่พักให้ 10 10 10 ค่ะ ไม่หักเลย การบริการดีมาก พนักงานน่ารักมาก เป็นอีกตัวเลือกที่แนะนำและมีโอกาสต้องกลับไปพักอีกอย่างแน่นอนค่ะ

ที่พักอีก 2 คืน เลือกออกมาพักใกล้สนามเซปัง เนื่องจากไม่อยากฝ่าฟันกับรถติด แต่ก็ต้องแลกด้วยพื้นที่ของห้อง คือ ห้องในแบบ Tune สไตล์ Tune แต่ก็สะดวกสบาย เป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ได้ขี้เหร่สำหรับทริปนี้ค่ะ ห้อง Double Room ราคาคืนละ 1515 บาท รวมอาหารเช้านะคะ TUNE HOTEL KLIA AEROPOLIS

จากนั้นก็เข้าสนามไปดูการแข่งขัน ขาไปทั้งสองวันใช้บริการ Grab เช่นเคยค่ะ วันแข่งเรียกรถนานมากแต่ก็ต้องรอ เจอน้องคนไทยพักที่เดียวกัน มาดูแข่งเหมือนกัน ก็เลยได้แชร์กันค่ารถค่ะ 35 ริงกิต หารสอง ก็ถูกลงมาหน่อย สบายค่ะ ^^

วันกลับเหลือเงินติดกระเป๋ากลับมา 50 กว่าริงกิต เผื่อไว้แต่ก็ไม่ได้ใช้สรุปทริปนี้แฮปปี้ที่ได้ไป แต่ไม่ค่อยยิ้มกับผลการแข่งขันค่ะ ปี 2023 หากมีโอกาสได้ไปอีกจะกลับมารีวิวให้ได้ชมกันใหม่นะคะ ทริปนี้กลับถึงไทย พร้อมคำถาม ผลการแข่งเป็นไงบ้างครับ รถดูคาติ แรงจริงอะไรจริง เสียดายน้องก้องเรากับไอโอระ !! เจ้าหน้าที่คะ แสดงว่าดูเหมือนกันซินะ ^^ เจอกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีค่ะ

By : แอดป้าแว่น