ทำความรู้จักรถจักรยานยนต์ “โมเดิร์น คลาสสิก” อันเลื่องชื่อของไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์

แชร์บน

ทำความรู้จักรถจักรยานยนต์ “โมเดิร์น คลาสสิก” อันเลื่องชื่อของไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์

หากพูดถึงรถจักรยานยนต์สไตล์ “โมเดิร์น คลาสสิก” ที่มาพร้อมตำนานและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีซุ่มเสียงที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณในการขับขี่ให้เปล่งประกายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เชื่อว่าหลายๆ คนที่หลงใหลในการขับขี่ต้องนึกถึงรถจักรยานยนต์ตระกูล “บอนเนวิลล์” (Bonneville) อันเลื่องชื่อของไทรอัมพ์ และสมาชิกใหม่ในกลุ่มโมเดิร์น คลาสสิกอย่างตระกูล “TR-Series” อย่างแน่นอน และเพราะอะไรที่ทำให้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ในกลุ่มโมเดิร์น คลาสสิก มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและสามารถครองใจผู้ขับขี่ได้อย่างยาวนาน ครั้งนี้จะพาทุกคนหาเหตุผลไปด้วยกัน

รถโมเดิร์นคลาสสิกสายพันธุ์แท้ที่ดีเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา
รถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิก ตระกูล “บอนเนวิลล์” (Bonneville) ทั้งหมดของไทรอัมพ์ สืบเชื้อสายมาจาก “บอนเนวิลล์” (Bonneville) รุ่นปี 1959 ซึ่งเป็นต้นแบบรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษรุ่นดั้งเดิม โดย “บอนเนวิลล์” (Bonneville) ทุกรุ่นมีสมรรถนะและรูปลักษณ์ DNA แบบฉบับไทรอัมพ์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่นอกจากจะพาทุกคนออกโลดแล่นในทุกสไตล์ของการเดินทางที่ต้องการแล้ว ยังชวนสะกดทุกสายตาให้จ้องมองมาเมื่อได้ขับขี่ นอกจากนี้ DNA อันเป็นเอกลักษณ์ข้างต้นยังถูกถ่ายทอดส่งต่อมาถึงรถจักรยานยนต์ตระกูล “TR-Series” สมาชิกใหม่ในกลุ่มโมเดิร์น คลาสสิกของไทรอัมพ์อีกด้วย

เครื่องยนต์สัญชาติอังกฤษขนานแท้
รถจักรยานต์ไทรอัมพ์ตระกูล “บอนเนวิลล์” (Bonneville) มาพร้อมเครื่องยนต์สูบคู่สุดเร้าใจ เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ขนาด 900 ซีซี ที่มาพร้อมสมรรถนะ และการบังคับรถที่พร้อมมอบความมั่นใจให้ผู้ขับขี่จะมีทั้งรุ่น Speed Twin 900, Bonneville T100 และ Scrambler 900 ในขณะที่เครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี ที่มีคาแรคเตอร์และสไตล์ในแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใครมีให้เลือกทั้งรุ่น Speed Twin 1200 Scrambler 1200 Bonneville T120 และ Bonneville T120 Black Bonneville Bobber และ Bonneville Speedmaster ซึ่งทั้งหมดส่งมอบพละกำลังและแรงบิดสูง การปล่อยไอเสียน้อยลง รวมทั้งประหยัดน้ำมันอย่างดีเยี่ยม ปิดท้ายด้วยรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ตระกูล “TR-Series” สองสมาชิกใหม่ของกลุ่มรถจักรยานยนต์โมเดิร์นคลาสสิก ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สูบเดี่ยวในพิกัด 400 ซีซี ที่ประกอบด้วยรุ่น Speed 400 และ Scrambler 400 X ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีอย่างล้นหลาม

สไตล์ที่โดดเด่นเหนือกาลเวลา ผสานขีดความสามารถระดับสูงเพื่อผู้ขับขี่
ภายใต้รูปลักษณ์ของรถจักรยานยนต์ “โมเดิร์น คลาสสิก” จากไทรอัมพ์ที่ทุกคนจดจำได้เป็นอย่างดี รถจักรยานยนต์แต่ละรุ่นจะได้รับการพัฒนาให้เพียบพร้อมทั้งงานพื้นผิวและการเก็บรายละเอียดอันงดงามและยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการสานต่อดีไซน์แบบดั้งเดิมที่โดดเด่นเหนือกาลเวลาได้เป็นอย่างดี ทำให้รถจักรยานยนต์แต่ละคัน ล้วนมีคุณลักษณะและสไตล์ที่มีความเป็นสายพันธุ์แท้และเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีสเปกและเทคโนโลยีเพื่อผู้ขับขี่ พร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่น Bonneville Bobber ที่มีทั้งเทคโนโลยีระดับสูงที่เน้นผู้ขับขี่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย อาทิ คันเร่งแบบ Ride-by-Wire เพื่อมอบการตอบสนองที่ดีเยี่ยม ระบบ ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่, ระบบคลัตช์ช่วยผ่อนแรงบิด, ตลอดจนกุญแจรถที่มาพร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม อีกทั้งยังมีสไตล์การตกแต่งที่งดงามไร้ที่ติ เข้ากันกับสมรรถนะ ขีดความสามารถ และเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขับขี่สมัยใหม่ ซึ่งติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของรถจักรยานยนต์ได้อย่างลงตัว โดยยังคงไว้ซึ่งต้นแบบของสไตล์การตกแต่งสุดโดดเด่น และเส้นสายที่เนี้ยบและเฉียบ เริ่มตั้งแต่ระบบกันสะเทือนหลังที่ถูกออกแบบให้ซ่อนอยู่ในสวิงอาร์มหลัง เพื่อให้เข้ากับรูปลักษณ์สไตล์ “ฮาร์ดเทล” โหมดการขับขี่ที่หลากหลาย เบรกหน้าสเปกสูงจาก Brembo และระบบกันสะเทือนหน้าจาก Showa เป็นต้น

ชีวิตที่มอบทั้งใจให้รถจักรยานยนต์ Bonneville
“เพราะไทรอัมพ์เป็นมากกว่าแค่รถจักรยานยนต์ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่คอยขับเคลื่อนทั้งตัวตน สังคมและจิตวิญญาณ” นี่คือเหตุผลที่ คุณอิ๋ว – พงษ์สุข กิจนิตย์ชีว์ ชายที่มอบทั้งหัวใจให้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ในตระกูล Bonneville ซึ่งคุณอิ๋วมีรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์บอนเนวิลล์อยู่ในการครอบครองถึง 3 รุ่น 3 สไตล์ ซึ่งแต่ละคันล้วนมีคาแรคเตอร์แตกต่างกันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น Thruxton 900 ปี 2002 ต่อด้วย Bonneville T100 รุ่นฉลอง 50th Anniversary และ Bonneville T120 Ace Café ซึ่งทุกคันนอกจากจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ยังขับขี่ง่ายไปได้ทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะขี่ในชีวิตประจำวันหรือออกเดินทางท่องเที่ยว แถมยังบ่งบอกสไตล์และตัวตนของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ที่สำคัญยังมีคอมมิวนิตี้ของกลุ่มคนรักและชื่นชอบการขับขี่ไทรอัมพ์ไม่ว่าจะมีรุ่นไหนก็ตามให้ได้ทุกคนได้มารวมตัว พูดคุย พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มาร่วมกิจกรรมด้วยกันโดยไม่มีการแบ่งแยกรุ่นรถอีกด้วย

เพราะ Triumph คือเพื่อนแท้ทุกการเดินทาง
นิยามของคำว่า “เพื่อนแท้” ของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน แต่สำหรับ คุณอู๋-บัญญัติ คูณสินศรัณย์ บอกว่า รถจักรยานยนต์ของไทรอัมพ์นี่แหละคือเพื่อนแท้ที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอในวันที่ยากลำบาก เพราะก่อนที่จะมาขับขี่รถจักรยานยนต์ประสบกับปัญหาทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ผสานกับช่วงสถานการณ์โควิดพอดีด้วย ดังนั้นการออกไปขี่รถจักรยานยนต์ถือเป็นช่วงเวลาที่ทำให้มีสมาธิอยู่กับตัวเองที่สุด ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่าน ทำให้รู้สึกแฮปปี้มาก โดยคุณอู๋เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์เครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 1200 ซีซี หลายรุ่น อาทิ Bonneville Bobber, Thruxton RS และ Scrambler 1200 ซึ่งแต่ละคันก็จะให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างกัน แต่ถ้าให้เลือกคงบอกว่า Scrambler 1200 เป็นรถจักรยานยนต์ตอบโจทย์การขับขี่บนถนนในเมืองไทยมากที่สุดคันหนึ่ง เพราะตอนขับขี่ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะเจอถนนรูปแบบใด สามารถขับขี่ไปได้หมด ซึ่งคันนี้ได้ตะลุยไปเกือบทั่วประเทศมาแล้ว และไม่เคยพบปัญหาใด ๆ กับรถจักรยานยนต์เลย นับเป็นการการันตีการเป็นเพื่อนสนิทที่พาไปได้ทุกเส้นทางอย่างแท้จริง

เพราะรถจักรยานยนต์ Triumph ไม่ใช่เป็นแค่ความฝัน แต่เป็นวิถีชีวิต
ปิดท้ายกันที่ คุณบาส – ปุณณวัจน์ พิงค์ทร ชายหนุ่มผู้ที่หลงใหลการขี่รถจักรยานยนต์และชื่นชอบการตกแต่งรถจักรยานยนต์สไตล์วินเทจ จนกลายมาเป็นอาชีพหลักกับการทำกระเป๋าใส่สัมภาระสำหรับตกแต่งรถจักรยานยนต์ จนมีชื่อเสียงในแวดวงคนขับขี่ไทรอัมพ์ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถเหมือนกัน เนื่องด้วยรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นสามารถนำมาปรับแต่งได้ตามสไตล์เฉพาะตัวของผู้ขับขี่นั่นเอง จากจุดนี้ทำให้เขาได้สานฝันการมีไทรอัมพ์เป็นของตัวเอง ปัจจุบันคุณบาสเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ทั้งรุ่น Street Twin และ Speed 400 ที่เป็นทั้งเพื่อนซี้ และเพื่อนร่วมงานไปในตัว ซึ่ง Speed 400 แม้จะเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ก็เป็นรุ่นที่คุณบาสไม่ลังเลที่จะเป็นเจ้าของทันทีเมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพราะนอกจากจะนำมาปรับแต่งตามสไตล์ของตัวเองได้แล้ว ยังขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว หรือ จะออกทริปใกล้ไกลก็สามารถทำได้ อีกทั้งสิ่งสำคัญคือมาพร้อมความปลอดภัยและเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ขับขี่ที่มั่นใจได้เป็นอย่างดี และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ไทรอัมพ์ไม่ใช่เป็นแค่ความฝันของเขาอีกแล้ว แต่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต เพราะนอกจากจะทำให้เขาได้ทำงานที่ชื่นชอบแล้ว ยังพาออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์หลากหลายรูปแบบได้อีกด้วย

สำหรับใครที่เริ่มหลงรักและอยากลองสัมผัสรถจักรยานยนต์ในกลุ่ม “โมเดิร์น คลาสสิก” จากไทรอัมพ์ สามารถทดลองขี่และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมไทรอัมพ์ 12 แห่งทั่วประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand