Road Trip เพชรบูรณ์ ตามรอย จอง คัลแลน ภูทับเบิก ถนนลอยฟ้านาสะอุ้ง
เออ ดี มีประโยชน์ ทำให้ได้รู้ว่าน้องไปตรงไหนยังไง (จะได้ตามไปบ้างถูก)
ดังนั้นจัดไปอีกเลยจ้า กับการไปตามรอยยูทูปเบอร์ยอดฮิต พี่จอง กับ น้องคัลแลน
เส้นทางจากกรุงเทพ ภูทับเบิก ถนนลอยฟ้าภูทับเบิก นาสะอุ้ง บ้านหมากแข้ง
เลยแยกมะนาวหวาน มาแถวบ้านเขาขวาง เราจะเจอจุดแรกที่น้องแวะ นั่นก็คือร้านตองอู่คาเฟ่นั่นเอง เป็นจุดที่น้องแวะแบบว่าจะหาอะไรกินหาอะไรดื่ม แต่ในคลิปร้านปิด (เราไปร้านเปิด) พอร้านปิดแต่พี่จองคงอั้นไม่ไหว เลยไปเข้าห้องน้ำข้างทุ่ง ส่วนน้องคัลแลนก็ถ่ายรูปตรงข้างๆห้องน้ำนั่นแหละฮะ
จุดที่สอง เป็นร้านอาหาร อยู่ก่อนถึงแยกม่วงค่อมนิดนึง ชื่อร้านรสนิยม ในคลิปร้านเปิดและน้องแวะกินหลายเมนูเลยแหละ ส่วนวันที่เราไป….ปิดจ้า
……………………..!!!!!!……………………………
อะไรกันครับเนี่ยยยยยยย
ออกจากร้านรสนิยม….หิว ก็เลยต้องไปลงที่ข้าวแกงบุปเฟต์ข้างทาง รสชาดพอไหวอยู่นะ ที่สำคัญตักได้ไม่อั้น อิอิ
อิ่มแล้วก็ตรงยาวๆ ไหลมาเรื่อยๆจนมาถึงแยกบายพาสเมืองเพชรบูรณ์ เลี้ยวซ้ายออกเลี่ยงเมืองไป แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายกลับเข้า
อีกที พอถึงแยกหล่มสักก็เลี้ยวซ้าย แวะเติมน้ำมันให้เต็มถึงเตรียมขึ้นทับเบิก
ถนนเลี่ยงเมืองเพชรบูรณ์มีจุดถ่ายภาพสวยๆด้วยนะ เล็งดีๆใช้แค่เลนส์เทเลของกล้องมือถือกับขาตั้งก็ยังไหว
จากแยกที่สาย เลี้ยวขวาเข้ามาเจอหมอกอ่อยๆลอยรออยู่บนทับเบิก เห็นแล้วมันชื่นใจ ช่วงหน้าฝน ต่อให้ฝนหยุดแล้ว ถนนส่วนใหญ่แห้งแล้ว แต่หลายโค้งบนทับเบิกห้ามประมาท เพราะอาจมีน้ำใต้ดินที่ซึมทะลุยางมะตอยมาเป็นกับดัก แต่ในภาพจะเป็นน้ำที่ไหลมาจากฝั่งที่สูงกว่า อันนี้ก็น่ากลัวไม่แพ้กัน
จุดต่อมา แวะมาตามรอยน้องที่ฟาร์มแกะภูทับเบิก ค่าเข้าคนละร้อย ค่าอาหารน้องๆถ้วยละ 40 ปิดหกโมงเย็นนะจ๊ะ เข้าไปแล้วก็เตรียมรับแรงกระแทกได้เลย 55+
จุดต่อไป ตามรอยแบบเหยื่อการตลาด เพราะที่ฟาร์มแกะจะแจก(มั้ง)ส่วนลดร้านกาแฟ(น่าจะเจ้าของเดียวกัน)ให้เราเอาไปใช้ได้ที่ อาหยง คอฟฟี่ จัดไปสิฮะ ตามรอยกันให้สุด ขี่ขึ้นมาอีกไม่ไกล พอเห็นป้ายบ้านน้ำเพียงดินก็ชิดซ้ายได้เลยจ้า กาแฟได้ วิวโดน ได้อยู่นะ
ขึ้นมาเช็คอินกันที่ๆพักที่น้องมาพัก กับที่ วิมานหมอก ภูทับเบิก โทรจองล่วงหน้าหนึ่งวัน ได้ห้องที่น้องคัลแลนพัก ในราคาคืนละ 1300 บาท (พร้อมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มหมูเห็ดหอม) เรียกได้ว่ามานอนทับรอยน้องกันเลย แอบเขินป้ายไวนิลนิดนึง
ดาดฟ้าวิวแจ่มๆแบบนี้ ต้องกินหมูกะทะแบบที่น้องกินด้วยนะ สั่งชุดเล็กมาในราคา 350 บาท มีน้ำแข็งและแป๊บซี่ให้ด้วย เอาเป็นว่า กินไม่หมดจ้า นั่งๆไป พอมืดสักพักเริ่มหนาวขึ้นๆ นั่งเพลินจนประมาณสามทุ่ม ลมเริ่มแรง เริ่มหนาวจัด และในที่สุดก็มาทั้งลมและฝนก็ต้องหนีลงมานอนจ้า
ยามเช้าที่แสนคุ้มค่า กับทะเลหมอกในช่วงต้นไฮซีซันของทับเบิก ทอนกระจายเลยจ้า
ตามรอยน้องกันต่อจ้า แอบเปลี่ยนโปรแกรมนิดหน่อยเพราะน้ำมันรถยังเหลืออีกเยอะ เลยไม่ไปเติมน้ำมันที่ปั้มหลอดในหมู่บ้านก่อน แต่เลือกมาที่ 111 โค้ง ภูทับเบิก คอฟฟี่ กันเลยดีกว่า จิบเอสร้อนกับไข่กะทะและหมอกฟูๆ อิ่มหมอกกันไปอีกเป็นเดือนๆ
จากนั้นก็ต่อกันด้วยยอดภูทับเบิก น้อนหมาเจ้าเก่ามาต้อนรับขับสู้เรา ก็น่าจะตัวเดียวกันกับในคลิปน้องนะ
เล่นกับน้องจนซี้กันแล้ว ก็ลงมาใช้สิทธิ์มื้อเช้ากับข้าวต้มหมูเห็ดหอม กลมกล่อม เติมได้ไม่อั้น รวมๆคะแนนที่นี่แหละให้ 10/10 คะแนนไปเลยจ้า
ใช้สิทธิ์ที่พักจนเต็มลิมิตถึง 11 โมงเช้านั่นแหละถึงจะเช็คเอาท์ คราวนี้เลี้ยวออกมาทางหมู่บ้าน ผ่านปั้มหลอดที่น้องเติม จากนั้นให้ไปทางวัดป่าภูทับเบิก ถึงประตูวัดก็เลาะออกด้านซ้าย ตามทางไปเรื่อยๆก็จะเจอกับถนนคอนกรีตเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆที่จะผ่านถนนลอยฟ้าไปนาสะอุ้งและบ้านหมากแข้ง บอกเลยว่า สายแลนด์สแคปจะชอบถนนเส้นนี้เป็นพิเศษ คำว่า “ถนนลอยฟ้า” ไม่ใช่สรรพคุณที่เกินจริงแต่อย่างใด
จุดชมวิวของถนนลอยฟ้านาสะอุ้ง เป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แนะนำให้รีบตามรอยน้องไปที่นี่ให้ไว ก่อนที่ความเจริญและสิ่งปลอมแปลกจะเข้ามาแทนที่ความดิบหลายสิ่งของที่นี่…ซึ่งเดาว่าอีกไม่นานหรอก ว่าแล้วก็จัดชุดใหญ่ให้เต็มๆ
ลืมบอกไปว่า ที่เห็นนี่คือช่วงเที่ยงวันนะจ๊ะ….บร๊ะ!!!
จุดสุดท้ายที่จริงๆแล้วจะต้องเข้าไปน้ำตกตามรอยน้อง แต่เนื่องจากเส้นทางแบบนั้น ไม่เหมาะกับผมที่มาคนเดียวกระเทียมโทนแต่อย่างใด โดยเฉพาะภาพของทากุจังที่กระดึ้บๆเข้ามานั้น…ยิ่งถ้าเข้าไปเจอฝนแล้ว (ซึ่งหลังจากนั้นสักชั่วโมงก็ตกยับๆเลย) เกรงว่าจากนักท่องเที่ยวจะกลายเป็นผู้ประสบภัยให้ลำบากเจ้าหน้าที่ต้องมาเก็บกู้ออกไป ขออภัยที่ต้องขอละไว้หนึ่งกรุบ…ไว้มีบัดดี้มาจะลองเข้าไปดูนะ
บอกไว้นิดนึงว่า หลายจุดของถนนเส้นนี้ค่อนข้างชัดและทางก็ไม่ได้กว้างอะไรมาก ระบบเบรคที่ดี และทักษะการขึ้นลงทางชันนั้นเป็นสิ่งที่ควรจะพกติดตัวติดรถมาด้วยนะฮะ….เป็นห่วงจริงจัง
จากนั้นผมเดินทางไปตามทาง ผ่านบ้านนาสะอุ้งจนไปถึงสามแยกหมากแข้ง ก่อนจะเลี้ยวขวากลับไปที่ทางหลวงแผ้นดินหมายเลข 21 ขอปิดกระทู้นี้ที่ตรงนี้ ที่ต้องขอฝากเอาไว้ว่า ป้ายบอกทางเป็นสมบัติสาธารณะ ขอให้มันเป็นป้ายบอกทางเถอะ มันไม่ควรจะเป็นป้ายสำหรับแปะสติกเกอร์ประกาศ….อะไรของใครคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนแต่อย่างใด ที่สำคัญจนอกจากตัวสติกเกอร์แล้ว ก็ยังทิ้งแผ่นกระดาษของสติกเกอร์ไว้แถวนั้นอีกซะด้วยนะ..แหม่ ไม่รู้จะสรรหาอะไรมา ๒๑๊๑๋ฯโ๋ฆฯโญ็”.โโ เลยแหละ ….และใดๆดังนี้ ไม่ขอวิจารณ์เพียงแต่ถ้อยคำ แต่ลงมือทำด้วยการจัดการคืนพื้นที่บนป้ายให้ชุมชมแถวนั้นก็แล้วกัน
ขอบคุณทุกๆการติดตาม …. แล้วพบกันใหม่ครับ ……… แอดหมีโอม